ชลบุรี 5 ก.ค.-“ศุภชัย” พร้อมร่วมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายพรรคการเมือง เพื่อยืนยันมติ กกต.ไม่ขัด รธน. มั่นใจไพรมารีโหวตไม่มีปัญหา จนท. กกต.มีประสบการณ์เลือกตั้ง เผยยังไม่มีกฎหมายชัดเจนเปิดช่องส่งศาลตีความกฎหมาย กกต. ย้ำยืนมติเดิมไม่ใช่การเมือง
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.เสียงข้างมาก เห็นว่าไม่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ ว่า หลังจากที่ตนได้เป็นตัวแทนของ กกต.ไปชี้แจงต่อที่ประชุม กมธ.ร่วม 3 ฝ่ายว่าในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.มี 6 ประเด็น ที่ กกต.เห็นว่าไม่เป็นไปตามเจตนรมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อที่ประชุมเสียงข้างมาก เห็นว่าไม่มีบทบัญญัติใดขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ตนเป็นเสียงข้างน้อย 1 เสียง ก็ต้องขอสงวนคำแปรญัตติไว้ เพื่อที่จะไปชี้แจงในที่ประชุม สนช.ถึงเหตุผลที่เราเห็นว่าร่างฯ นี้ขัด และเพื่อให้อยู่ในบันทึกการประชุม ให้ได้มีการศึกษา การคัดค้านของ กกต.ไม่ได้มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น ไม่ได้ต้องการที่จะยื้อ เพื่อรักษาตำแหน่ง
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ตนพร้อมที่จะไปชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.ที่จะโหวตกฎหมายดังกล่าว ในวาระ 3 ด้วยตัวเอง โดยจะเป็นการไปยืนยันมติของ กกต.
“เราเป็นนักกฎหมาย เห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เราก็ต้องแย้งไป ไม่ได้แย้งแบบไม่มีเหตุผล หรือยื้อเพื่อรักษาตำแหน่ง เก้าอี้เป็นเพียงหน้าที่หนึ่งเท่านั้น เป็นหัวโขน อย่าไปยึดติดกับตำแหน่ง” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม กกต.ว่าจะมีช่องทางใดที่จะยื่นคำร้อง ซึ่งกระบวนการนี้ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ หากยื่นไปแล้วศาลไม่รับจะเกิดความเสียหาย ถูกกล่าวหาว่าไม่รอบคอบได้ ส่วนการที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร 1 ใน กกต.ระบุว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความทันทีหลัง สนช.ผ่านวาระ 3 เรื่องนี้ ยังถือว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของนายสมชัย
“เบื้องต้นการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 ให้อำนาจ สนช.และ ครม.เป็นผู้ยื่น แต่เราคงไม่ยื่นผ่านสององค์กรนี้ เพราะ สนช.เป็นผู้ออกกฎหมาย คงเป็นไปไม่ได้ที่เขายื่นให้เรา และเชื่อ ครม.เองก็น่าจะเห็นตามมติของ สนช. อย่างไรก็ตาม หากมีการยื่นให้วินิจฉัยจริง ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง เพราะศาลคงพิจารณาโดยเร็ว” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงการที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอความเห็นแย้งกฎหมายพรรคการเมือง ว่า ในส่วนของตนที่จะต้องร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญนั้น ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ แต่จะยืนยันตามมติของ กกต.ว่าร่างฯ ฉบับดังกล่าวไม่ได้มีบทบัญญัติใดขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องไพรมารี่โหวตที่ กรธ.เห็นว่ามี 3 ประเด็นที่ขัดแย้งนั้น ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของ กรธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ กกต.และ กรธ.ต่างเห็นแย้งกันในกฎหมายคนละฉบับ มองว่าเป็นการสวนมัดกันหรือไม่ นายศุภชัย ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการสวนมัด เรื่องนี้ทุกคนจะมองให้ดีหรือให้ร้ายก็ได้ แต่การทำหน้าที่ของ กกต.ต้องเป็นกลาง ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีสวนมัดใคร อันไหนผิดก็คือผิด อันไหนถูกก็คือถูก ไม่มีการเล่นการเมือง กกต.จะเล่นการเมืองไม่ได้ และทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติทั้งในด้านเลือกตั้งและพรรคการเมืองก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหา สามารถกำกับดูแลการเลือกตั้งได้ แต่เมื่อถึงเวลานั้น กกต.ชุดตนก็คงไม่ได้อยู่กำกับดูแลแล้ว
“คนร่างกฎหมายไม่ใช่ผู้ปฎิบัติ ผู้ปฎิบัติไม่ใช่คนร่างกฎหมาย ดังนั้นอย่าร่างกฎหมายแบบศรีธนชัย หรือเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะบ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวาย ขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น” นายศุภชัย กล่าว
เมื่อว่ากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.จะออกมาทีหลังสุด ซึ่งจะมีการแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีผลต่อการจัดไพรมารี่โหวตหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะเขตเลือกตั้งไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ขึ้นอยู่จำนวนประชากร เพิ่มหรือลด เบื้องต้นทางสำนักงาน กกต.ได้ให้ กกต.ประจำจังหวัดไปเตรียมการกำหนดเขตเลือกตั้งรองรับไว้ เมื่อถึงกำหนดจริงอาจมีการเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา.-สำนักข่าวไทย