สมุทรสาคร 4 ก.ค.-อุตสาหกรรมขนาดเล็กที่เกี่ยวเนื่องกับการแปรรูปอาหารทะเลใน จ.สมุทรสาคร กว่า 2,000 แห่ง ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว แต่หลังจากมีมาตรการผ่อนปรน เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น
ล้งแปรรูปอาหารทะเลในสมุทรสาครแห่งนี้ ต้องจ้างแรงงานคนไทยมาทำงานชั่วคราว หลังแรงงานเมียนมาร์กว่า 70 คน เดินทางกลับประเทศโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ประธานชมรมแปรรูปอาหารทะเล จ.สมุทรสาคร ยอมรับขณะนี้ล้งแปรรูปอาหารทะเลในพื้นที่กว่า 2,000 แห่ง กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แรงงานเมียนมาร์ไม่น้อยกว่า 20,000 คน เดินทางกลับประเทศทันที หลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
ด้านแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานเมื่อ 15 ปีที่แล้วบอกว่า ผู้ที่จะเข้ามาทำงานต่างถิ่นควรทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้ทำงานหาเงินส่งกลับบ้านได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ
ส่วนเรือประมงที่จอดเทียบท่าฉลอม ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานประมงอย่างหนัก จนไม่สามารถนำเรือออกหาปลาได้ตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากแรงงานมีการโยกย้ายเปลี่ยนงาน ประกอบกับรัฐไม่มีนโยบายจดทะเบียนแรงงานประมงรอบใหม่ ทำให้ขณะนี้เหลือแรงงานต่างด้าวในภาคประมงเพียง 3,000 คนเท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาร์ ขณะที่การนำเข้าแรงงานต่างด้าวภายใต้ MOU สัญชาติเมียนมาร์ ได้รับอนุญาตให้ทำงานกรรมกร และคนรับใช้ในบ้านเท่านั้น ผู้ประกอบการประมงจึงเรียกร้องให้รัฐเปิดจดทะเบียนแรงงานภาคประมงรอบใหม่เพื่อแก้ปัญหา
สมุทรสาครเป็นหนึ่งใน 5 จังหวัดที่มีการใช้แรงงานต่างด้าวมากที่สุดในประเทศไทย การผ่อนคลายบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐออกไปอีก 180 วัน ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว จากนี้ต่อไปต้องติดตามแนวทางการดำเนินการระยะยาวของกระทรวงแรงงานว่าจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร.-สำนักข่าวไทย