สช. 4 ก.ค.- สสส. ร่วมมือ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง หวังให้ญาติโยม ช่วยพระสงฆ์ไทย ไกลโรค จากอาหารบิณฑบาตร พร้อมแนะพระสงฆ์ออกกำลังกาย
รศ.ดร.ภญ.จงจิตร อังคทะวานิช ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสงฆ์ไทยไกลโรคเพื่อการดูแลโภชนาการพระสงฆ์ในระดับประเทศ (สสส.) พระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและ นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร สสส. ร่วมกันแถลงข่าว สงฆ์ไทย ไกลโรค เข้าพรรษานี้ ตักบาตรอย่าลืมถามสุขภาพพระ
โดยรศ.ดร.ภญ.จงจิตร กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก สถานการณ์อาพาธของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบันพบว่า เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยร้อยละ 55 พบว่า เป็นพระสงฆ์ที่มีอาการป่วยแล้ว อีกร้อยละ 40 เป็นพระสงฆ์ที่มีสุขภาพดี ส่วนใหญ่ของการอาพาธ มาจากการฉันอาหาร หวาน มัน เค็ม กระทิ จากอาหารที่ญาติโยมนำมาถวาย ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้การทำอาหารถวายพระสงฆ์ อยู่ในมือของแม่ค้าเป็นหลัก อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารอย่างง่าย บางอย่างทำค้างคืน ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
พระราชวรมุนี กล่าวว่า ตามวัตรปฎิบัติของสงฆ์ ไม่สามารถเลือกอาหารใส่บาตรได้ เพราะต้องฉลองศรัทธาของญาติโยม แต่สามารถพิจารณาอาหารได้ สามารถเลือกอาหารฉันไม่ให้ก่อโรค
ทั้งนี้ ยังได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่า สามารถปฏิบัติออกกำลังกายลดโรค ได้ นอกจากการบิณฑบาตร กวาดลานวัดในพระพุทธประวัติองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยตรัสไว้ว่า การเดินบิณฑบาตร เดินจงกรม หรือขยับร่างกาย ช่วยลดโรค
ซึ่งจากข้อมูลของสสส. ระบุว่า การบิณฑบาตร กวาดลานวัด อย่างน้อยก็เหมือนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ 120 แคลลอรี่ การแกว่งแขนได้ 220 แคลลอรี่ .-สำนักข่าวไทย