สมชาย แถลงปิดคดี มอบ พล.อ.ชวลิต กำกับดูแลสถานการณ์ร่วมกับตำรวจ

ศาลฎีกาฯ 30 มิ.ย.- “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” แถลงปิดคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ย้ำช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ได้สั่งการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ระบุมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต กำกับดูแลร่วมกับตำรวจ 


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  แจ้งวัฒนะ   ว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังแถลงปิดคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย   เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า  การต่อสู้ตามขั้นตอนปกติ เพราะเชื่อมั่นว่าตนไม่ผิด   ส่วนการสืบพยานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย  เพราะทีมกฎหมายทำงานเต็มที่  ท้ายสุดการวินิจฉัยเป็นอำนาจของศาล  ขอยืนยันว่ากระบวนการดำเนินไปตามปกติ  ไม่มีวิธีใดแตกต่างจากคดีอื่นเป็นพิเศษ  ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายตนแสดงความบริสุทธิ์ตามพยานหลักฐาน และเชื่อมั่นในคำตัดสินของศาล  ที่นัดพิพากษาในวันที่  2 ส.ค. นี้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังการไต่สวนพยานจำนวน 5 ปาก เสร็จสิ้น   นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์   ได้ยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรและแถลงการณ์ปิดคดีด้วยวาจาต่อศาล   ในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทย์ยื่นฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยได้ขอความเป็นธรรมต่อศาล  ตนไม่ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามที่ถูกกล่าวหา  และไม่เคยคิดร้ายหรือเลือกปฏิบัติ ไม่มีคำสั่งใดที่ละเมิดต่อกฏหมายและสั่งให้สลายการชุม


นายสมชาย ยังชี้แจงถึงเหตุการณ์ในวันที่  6-7 ตุลาคม 2551 ว่า ได้เรียกประชุม  ครม. เพื่อประเมินสถานการณ์ในการเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา  เนื่องจากประธานรัฐสภา ระบุว่าไม่สามารถเลื่อนวันหรือเปลี่ยนสถานที่แถลงนโยบายได้  โดยไม่ได้มีการกำชับคำสั่งใดเป็นพิเศษ   แต่ได้มอบหมายให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กำชับดูแลเหตุการณ์ในขณะนั้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระหว่างปฏิบัติงานได้สั่งห้ามใช้แก๊สน้ำตา   ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาควบคุมสถานการณ์อย่างละมุนละม่อม  เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย  ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ตนไม่ได้รับรายงาน เนื่องจากการดูแลความเรียบร้อยเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของตำรวจ

นายสมชาย กล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 7  ตุลาคม  ในช่วงเกิดสถานการณ์ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และไม่ได้สั่งการใด ๆ ทั้งสิ้น และหลังแถลงนโยบายเสร็จได้เดินไปกองบัญชาการกองทัพไทย ตนทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และรับราชการมาหลายปี  เป็นทั้งตุลาการ ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ  ไม่เคยมุ่งร้ายต่อฝ่ายใด  มีแต่ทำงานด้วยความประนีประนอม   ซึ่งเกิดเหตุการณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ต้องดูแลประชาชนทุกคนไม่คิดทำร้ายคนไทยด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 2 สิงหาคม เวลา 09.30 น.   พร้อมกำชับจำเลยที่ 2  พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ  ให้มาฟังคำพิพากษาตามนัด   ทั้งนี้การที่ศาลนัดฟังคำตัดสินเกิน 7  วัน   เนื่องจากมีพยานและเอกสารจำนวนมากที่ต้องพิจารณา.-สำนักข่าวไทย     


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพกับดาราดัง ใช้ กม.สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์กับดาราดัง ประกาศยินดีไทยใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดัน ลั่นวันนี้สำเร็จแล้ว นี่คือความภูมิใจของคนไทย

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหานายกฯ

นายกฯ เผยเกือบหลงเชื่อแก๊ง​คอลเซ็นเตอร์

นายกฯ เผย เกือบหลงเชื่อแก๊ง​คอลเซ็นเตอร์ หลอกแบบแอดวานซ์​ อ้างเป็นผู้นำประเทศหนึ่ง ส่งคลิปเสียงบอกยังไม่ได้ร่วมบริจาค ระบุ เคยโดนหลายรอบแล้ว ตั้งแต่สมัย “ทักษิณ” ยังไม่กลับไทย ฝากเตือนประชาชน พร้อมยกเป็นนโยบายแก้ปัญหาด่วน ​