กรุงเทพ 28 มิ.ย- “สมคิด” ประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม(E6) ติดตามความคืบหน้า “5 Quick Win” เผยยอดจ้างงานคนพิการ-ผู้สูงวัยทะลุเป้า
นายสมคิด จาตุศริพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม(E6) ครั้งที่ 2/2560 ซึ่งประกอบไปด้วย ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และเอกชน รองนายกฯ กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้ เพื่อหารือและติดตามความก้าวหน้า ” 5Quick Win” หรือประเด็นเร่งด่วนที่คณะทำงานฯ ดำเนินการตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ประกอบไปด้วย การส่งเสริมรายได้และการมีงานทำของคนพิการ และผู้สูงอายุ การออมเพื่อการเกษียน การพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยทางท้องถนน ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร และมีข้อเสนอแนะไหนบ้างที่รัฐควรเร่งช่วยเหลือ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าทีมฝ่ายภาครัฐ กล่าวต่อว่า แม้คณะ E6 จะเกิดขึ้นหลังคณะทำงานสานพลังประชารัฐคณะอื่น 1 ปี แต่ถือว่ามีความก้าวหน้า โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถส่งเสริมการจ้างงานของคนพิการในบริษัทกลุ่มประชารัฐเพิ่มขึ้น 7,500 คน และจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33 หรือ 35 จำนวน 5,303 คน หรือร้อยละ 41 ของคนพิการที่รัฐต้องจ้าง จากเป้าที่ตั้งไว้ว่า ต้องเพิ่มการจ้างในภาคธุรกิจให้ได้ 16,000 คนและภาครัฐ 12,932 คนภายในปี 61 ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่ตั้งไว้ เช่นเดียว กับการจ้างงานผู้สูงอายุ ที่ขณะนี้จ้างแล้ว 32,842 คน แบ่งเป็นภาครัฐ 9,762 คน เอกชน 6,719 คน และในรูปแบบอาชีพอิสระ 16,361 คน ซึ่งจำนวนนี้ คิดเป็นร้อยละ 84.21 ของเป้าที่ตั้งไว้ที่ 39,000 คนในปี 60 ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัย 6 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานในสังกัดเช่น ได้ดำเนินการสร้างบ้านพอเพียงชนบท 9,000 หลัง ปรับปรุงบ้านผู้สูงอายุ 2,897 หลัง ซ่อมแซมที่อยู่คนจน 1,988 หลัง และปรับปรุงบ้านคนพิการ 1,885 หลัง ขณะที่การออมเพื่อเกษียณอายุ ได้สร้างแกนนำในการให้ความรู้แก่แรงงานและผู้สูงอายุ
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.หัวหน้าทีมฝ่ายปนะชาสังคม กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ได้มีการลงนาม ประชารัฐร่วมใจร่วมกับรัฐและเอกชนกว่า 55 องค์กร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเเต่งตั้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางถนน (จปถ.)ภายในองค์กร เพื่อดูแลการใช้รถใช้ถนนของบุคลากร และ ออกระเบียบ รวมถึงประกาศในหลายองค์กร พร้อมจัดโครงการสนับสนุนทางวิชาการ สร้างเครือข่ายรณรงค์สร้างความตระหนักส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน และเสนอให้พิจารณา “เมาแล้วขับ” เป็นความผิดวินัยในองค์กร และต้องมีการควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงาน เช่น ห้ามขับรถเกิดกฎหมายกำหนด สวมหมวด คาดเข็มขัดนิรภัย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย
