สุราษฎร์ธานี 24 มิ.ย. – รัฐมนตรีคมนาคมเปิดถนนทางหลวงชนบทเข้าเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว จัดเลนจักรยานให้สิงห์นักปั่นกินลมชมวิว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดถนนทางหลวงชนบทเข้าเขื่อนรัชชประภา สาย สฎ.3062 แยกทางหลวงหมายเลข 401-เขื่อนรัชชประภา อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเปิดทางจักรยาน บริเวณถนนสายดังกล่าว ในการนี้มีนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต้อนรับ โดยมีนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหาร สื่อมวลชน ผู้แทนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมนำเยี่ยมชมนิทรรศการของถนนสายดังกล่าว จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมร่วมเป็นเกียรตินำคณะผู้บริหารปั่นจักรยานเข้าเขื่อนรัชชประภาด้วย
นายอาคม กล่าวว่า เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาสก น้ำตกธารสวรรค์ ถ้ำทะลุ ถ้ำขมิ้น ฯลฯ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก กรมทางหลวงชนบทจึงก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย สฎ.3062 แยกทางหลวงหมายเลข 401-เขื่อนรัชชประภา อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมก่อสร้างทางจักรยาน ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ส่งเสริมการใช้จักรยานให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนด้านธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เพิ่มขึ้น พัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล
นายพิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถนนสาย สฎ.3062 มีระยะทางรวม 9.590 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 เริ่มต้นก่อสร้าง กม.1+600 ไปสิ้นสุดการก่อสร้าง กม.9+590 ระยะทาง 7.990 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างเป็นถนนผิวจราจรแบบแอสฟัลต์คอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมก่อสร้างทางจักรยาน ปรับปรุงภูมิทัศน์ และติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องหมายจราจรสิ่งอำนวยความปลอดภัย โดยใช้งบประมาณการก่อสร้าง 113.800 ล้านบาท
สำหรับตอน 2 เริ่มต้นก่อสร้าง กม. 0+000 ถึง กม. 1+600 ระยะทาง 1.600 กิโลเมตร ก่อสร้างถนนเป็นผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร และติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องหมายจราจรสิ่งอำนวยความปลอดภัย โดยใช้งบประมาณก่อสร้าง 38.483 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จทั้ง 2 ตอน เมื่อเดือนมีนาคม 2560.-สำนักข่าวไทย
