นครปฐม 23 มิ.ย.- พศ.เร่งทำความเข้าใจให้ความรู้เจ้าอาวาส ไวยาวัจกรวัด พื้นที่ จ.นครปฐม กว่า 200 วัด จัดทำระบบบัญชีทรัพย์สินวัดอย่างโปร่งใส ป้องกันปัญหาการทุจริต พร้อมกำหนดให้ทุกวัดทั่วประเทศส่งบัญชีมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ภายใน 3 ก.ค.นี้ เผยหากวัดไม่ดำเนินการ ปีหน้าอาจมีกฎหมายบังคับ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดประชุมถวายความรู้เจ้าอาวาส และประชุมไวยาวัจกร ในเขต จ.นครปฐม ทั้ง 2 นิกาย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 700 คน ที่วัดไร่ขิง โดยนายอินทพร จันทร์เอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานศาสนสมบัติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า พศ.ตระหนักถึงปัญหาความโปร่งใสที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีทรัพย์สินวัด จึงจัดประชุมให้ความรู้เรื่องกฏหมายการจัดทำบัญชีแก่พระสังฆาธิการ ระดับเจ้าอาวาส และไวยาวัจกร ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการดูแลทรัพย์สินวัด หากทุกวัดมีระบบบัญชีที่ถูกต้อง จะช่วยแก้ปัญหาทุจริตได้ โดยสอนการใช้แบบฟอร์มในการแจกแจงทรัพย์ รายรับ รายจ่าย ตามแบบฟอร์มที่ถูกต้องของ พศ.
โดยปีงบประมาณ 2559 กำหนดให้วัดทั่วประเทศ 40,758 วัด ส่งบัญชีทรัพย์สิน ประกอบด้วย รายรับ รายจ่าย ต้องมีใบเสร็จกำกับในการดำเนินงานชัดเจนมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ภายในวันที่ 3 กรกฏาคมนี้
จากนั้น พศจ.จะรวบรวมรายชื่อวัดที่แจ้งรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินส่งต่อไปยัง พศ. เพื่อส่งต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ภายในเดือนสิงหาคม ก่อนปิดงบประมาณประจำปีภายในวันที่ 30 กันยายน 2560 โดยปีนี้เป็นเพียงการขอความร่วมมือ แต่หากทุกวัดไม่ส่งบัญชีทรัพย์สิน อนาคตรัฐบาลอาจมีมาตรการหรือกฏหมายบังคับ แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะใช้มาตรการใด เนื่องจากวัดมีส่วนในการใช้งบประมาณแผ่นดินด้วย ซึ่งปี 2559 วัดทั่วประเทศรายงานบัญชีทรัพย์สินเข้ามากว่าร้อยละ 80 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจ
ผอ.สำนักศาสนสมบัติฯ กล่าวอีกว่า ส่วนอำนาจในการตรวจสอบความโปร่งใส เป็นอำนาจของ กพร.ในการสุ่มขอตรวจบัญชีวัด ซึ่งรายละเอียดจะอยู่ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแต่ละจังหวัด ขณะที่ปีหน้าจะเริ่มใช้ระบบบัญชีมาตรฐาน คือ เลิกระบบบัญชีแบบเดิม การจัดทำแบบครัวเรือนง่ายๆ ปรับระบบการจัดทำบัญชีให้มีมาตรฐาน แบบระบบบัญชีของบริษัท ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบได้ง่ายและมีความโปร่งใส ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ให้ข้อเสนอว่า หากจะจัดทำระบบบัญชีมาตรฐาน ควรให้ทำเฉพาะวัดที่มีรายได้ 500 ล้านบาท/ปี วัดเล็กๆ ที่รายได้น้อย ทำระบบเดิม เพื่อลดภาระของวัดในการจ้างนักบัญชี ซึ่งหากเปลี่ยนระบบใหม่อาจสร้างความกังวลให้กับวัดขนาดเล็กได้ โดย พศ.จะเร่งทำความเข้าใจและส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมการจัดทำบัญชีให้ครบทุกจังหวัด ซึ่งการจัดทำระบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย เริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 ค่อยๆ พัฒนาและแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมา มีข่าวเรื่องการทุจริตบัญชีวัดออกมาต่อเนื่อง ทั้ง พศ.และคณะสงฆ์จึงตื่นตัวแก้ปัญหาในเชิงรุกมากขึ้น
ด้านพระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า วัดในสังกัด จ.นครปฐม มีกว่า 200 วัด ทำตามมติมหาเถรสมาคม ส่งรายงานบัญชีทรัพย์สินครบเกือบ 100% และมีคณะกรรมการทวงถาม หากวัดใดไม่ส่ง ซึ่งเป็นประจำทุกเดือน ทุกวัดต้องส่งบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้กับเจ้าคณะปกครองอยู่แล้ว และทุก 6 เดือน ต้องส่งให้กับเจ้าคณะจังหวัด จึงไม่เกิดปัญหา เน้นใช้หลักธรรมาภิบาลควบคู่ อย่างวัดไร่ขิง มีการแยกบัญชีชัดเจน ไม่เก็บเงินไว้ที่วัด มีไวยาวัจกรจัดทำบัญชีเข้าธนาคาร แยกเป็นบัญชีกฐิน ผ้าป่า งบประมาณอุดหนุนจากรัฐ และส่งรายงานทุกปี จึงไม่เกิดปัญหา เชื่อว่าหากทุกวัดมีการรายงานบัญชีให้รัฐ จะไม่มีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ตื่นตัวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา.-สำนักข่าวไทย