ทำเนียบฯ 23 มิ.ย.- นายกฯ ประกาศปีนี้เป็นปีแห่งการปราบปรามยาเสพติดระดับใหญ่-ข้ามชาติ เดินหน้ามาตรการเชิงรุก กำหนดแผนป้องกันการสูญเสียของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยม และดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2560 เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด 26 มิถุนายน รวมทั้งเป็นประธานรับมอบเงินจากมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน ซึ่งปีนี้มีผู้ได้รับโล่และใบประกาศเกียรติคุณ 216 ราย และมอบเงินให้กับครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต จากการปฎิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด
โดยในปีนี้มีบุคคล ที่ได้รับประกาศเกียรติคุณโล่ประกาศเกียรติคุณระดับระดับยอดเยี่ยมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจำนวน 5 ราย ได้แก่ พระภาวนา วรคุณ เจ้าอาวาสวัดภาวนาภิรตาราม น.ส.นิภาพร รุจนรงค์ รองอัยการสูงสุด พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 พ.ต.ท.สมคะเน ไตรยะสุทธิ์ รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและสืบสวนหาข่าวการค้ายาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมผู้ที่ได้รับรางวัล ขอให้มีความภาคภูมิใจในรางวัลที่ได้รับ เพราะถือเป็นรางวัลที่ทรงคุณค่า ขณะเดียวกันปัญหายาเสพติดถือว่าเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลนี้ ในวันที่ 26 มิถุนายน เป็นวันยาเสพติดโลก และทั้งโลกตระหนักถึงปัญหายาเสพติดเช่นเดียวกับประเทศไทย ยอมรับว่าการจะปราบปรามให้หมดเป็นไปได้ยาก เพราะมีการพัฒนาการค้ายาขึ้นตามลำดับ รัฐบาลจึงต้องปรับการทำงานให้ทันและเดินหน้าในเชิงรุกในการป้องกันและปราบปราม ฟื้นฟูผู้เสพยา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด เพราะอาจจะส่งผลกระทบทางอ้อม ภายหลังจากมีการบังคับใช้กฎหมาย แต่รัฐบาลจะพยายามให้เกิดการสูญเสียให้น้อยที่สุด เพราะรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการการะจายรายได้และการลงทุนในอนาคต และการวางแผนงานด้านยาเสพติดที่จะต้องสร้างความเข้มแข็งและลดจำนวนลงให้ได้ ด้วยการทำงานอย่างบูรณาการในรูปแบบประชารัฐ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม สร้างผลกระทบด้านอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำในสังคม ต้องยอมรับว่า มีเงินที่มาจากการทำผิดด้านยาเสพติดหมุนเวียนสู่ประชาชน โดยที่ประชาชนอาจไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อมีการปราบปรามอย่างจริงจัง อาจทำให้เงินเหล่านี้หายไป ซึ่งขอให้ประชาชนเข้าใจ ว่าจะต้องร่วมกันแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลได้ให้ความจริงจังกับกระบวนการป้องกันปราบปราม และฟื้นฟู ทั้งระบบ ผ่านการบูรณาการของทุกหน่วยงานที่จะต้องกำหนดแผนปฏิบัติทั้ง แผนงาน แผนคน และแผนเงินที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แต่การทำงานจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคนในประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็ง ตั้งแต่ระดับตนเอง ครอบครัว สังคม ไปถึงระดับประเทศ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ฝากให้เจ้าหน้าที่พิจารณาแผนการเข้าตรวจค้นปิดล้อมผู้กระทำผิด ที่ขอให้มีการวางแผนที่ชัดเจน มีมาตรการรองรับการเผชิญเหตุ เช่นหากมีการใช้อาวุธ จะต้องมีแผนรองรับเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการให้ทุกคน ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหา มีโอกาสในการรับรางวัลและการชื่นชมจากสังคม เพื่อเป็นความภาคภูมิใจในการทุ่มเทและเสียสละ ในปีนี้ จะต้องเป็นปีแห่งการปราบปรามยาเสพติดระดับใหญ่ให้ได้ ซึ่งเห็นได้จากผลงานปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ เช่นเดียวกันจะมีการคุ้มเข้มตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้ยาเสพติดได้มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ หรือที่เรียกว่า การพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 .-สำนักข่าวไทย