ทำเนียบรัฐบาล 22 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาลแจงเหตุฟื้นประชุมครม.สัญจร หวังรับทราบปัญหาจากประชาชนโดยตรง เบื้องต้นกำหนด 6 พื้นที่ เหนือ กลาง อีสาน ใต้ กลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวคิดฟื้นการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่(ครม.สัญจร) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องการให้มีการประชุม ครม.สัญจร ซึ่งสอดคล้องกับที่ได้สั่งการให้รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่ ซึ่งได้เน้นย้ำว่าการลงพื้นที่ไม่ใช่ไปสร้างคะแนนเสียง เพราะไม่ได้ต้องการเล่นการเมืองในอนาคต แต่ต้องการไปรับฟังทุกข์สุขประชาชนในพื้นที่โดยตรง
“ขณะเดียวกันต้องการให้เจ้าหน้าที่ระดับนโยบายพูดคุยกับข้าราชการในสังกัดของตนเองในพื้นที่ว่านโยบายจากส่วนกลางที่ลงไปตรงกันหรือไม่ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นเรื่องการประชุมครม.สัญจร เบื้องต้นกำหนดไว้ใน 6 พื้นที่ 6 ภูมิภาค คือ เหนือ กลาง อีสาน ใต้ กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างไรก็ตาม ถ้ามีช่วงโอกาสและจังหวะเวลาที่เหมาะสมอาจจะขยายไปในส่วนของ 18 กลุ่มจังหวัดด้วย ถ้าทำได้จะเป็นเรื่องดี” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจะค้างคืนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดเชียงใหม่หรือประจวบคีรีขันธ์ จะต้องมีคณะทำงานทั้งจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องและส่วนกลาง ต้องเดินทางไปลงพื้นที่ล่วงหน้าก่อนเพื่อพบปะกับประชาชนและชุมชน ซึ่งการประชุมครม.สัญจร จะแยกคนละส่วนกับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในแต่ละเดือน แต่ต้องประสานสอดคล้องกัน
“นายกรัฐมนตรีเคยปรารภว่าการลงไปพื้นที่ต่าง ๆ อยากได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่อยากไปเพียงแค่กิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง เพราะทุกเรื่องต้องมีความเชื่อมโยงกัน การไปต่างจังหวัดแล้วค้างคืนอาจตอบโจทย์ได้ ขณะเดียวกันไม่ต้องการให้ในพื้นที่ระส่ำระสายได้รับผลกระทบ เพราะการที่ครม.จะลงไปในพื้นที่ใดก็จะต้องมีคณะติดตามลงไปด้วยจำนวนมาก ทั้งในส่วนของผู้ติดตาม ผู้ที่เตรียมข้อมูล รวมทั้งเป็นห่วงเรื่องโรงแรมที่พัก ที่เกรงว่าอาจกระทบกับผู้อื่นที่จองล่วงหน้าไว้ก่อน ก็ต้องดูให้เหมาะสม” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย