“วัฒนา”มือบึ้ม”พระมงกุฎ”เผย ทำระเบิดแต่ละครั้งใช้เงินแค่ 50 บาท

กทม.120 มิ.ย.-   “วัฒนา”มือบึ้ม”พระมงกุฎ” ขอโทษผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ ยันทำลำพัง ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ชี้ ทำระเบิดแต่ละครั้งใช้เงินแค่ 50 บาท ด้าน ผบ.ตร.เตรียมทวนการป้องกันก่อเหตุแบบ”โลน วูล์ฟ”


พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวกรณีจับนายวัฒนา ภูมเรศ อดีตวิศวกรไฟฟ้า มือวางระเบิดที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 1 ห้องรอรับยานายทหารชั้นสัญญาบัตร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา  ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 20 คน โดยถูกจับกุมเมื่อ 14 มิถุนายนว่า นายวัฒนาก่อเหตุวางระเบิดทั้งหมด 3 คดี สิ่งที่เกี่ยวข้องกันคือ สวิตซ์ไฟฟ้า ลักษณะสายไฟฟ้าและแผงไฟฟ้า ตั้งแต่วางระเบิดปี 2550, วางระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ 15 พฤษภาคมปีนี้ จนถึงวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ จบด้านวิศวกรไฟฟ้า จึงมีความชำนาญเรื่องการต่อวงจรไฟฟ้า


นายวัฒนา เล่าว่า เหตุวางระเบิดปี 2550 และ 2560 เพราะไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลมาจากการปฏิวัติ ทุกครั้งที่วางระเบิดพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ ก่อเหตุเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า ประชาชนรากหญ้าไม่ได้ชื่นชมรัฐบาลที่มาจาการปฏิวัติ ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ใด ขออภัยอย่างยิ่งกับผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน ยืนยันว่าทำเพียงลำพัง ไม่มีใครชี้นำ ส่วนตัวรักทหาร แต่ไม่ชอบทหารบางนายใช้ประชาชนสู่ตำแหน่งผู้นำ มั่นใจ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจะทำให้รัฐบาลหันหน้ามาคุยกับประชาชนมากขึ้น ส่วนงบที่ใช้ในการทำระเบิดแค่ครั้งละ 50 บาท

จากนั้นจะคุมตัวนายวัฒนา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุดสำคัญคือที่บ้านพักย่านบางเขน ซึ่งพบไปป์บอมบ์และอุปกรณ์ประกอบระเบิด, หน้าเมเจอร์รัชโยธินและโรงพยาบาลพระมงกุฎฯจุดวางระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับนายวัฒนา ถูกออกหมายจับทั้งหมด 5 หมายจับ โดยมีพยานหลักฐานว่า เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน เมื่อ 9 เม.ย.50, คดีระเบิดหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม กองสลากแห่งเก่า เมื่อ 5 เม.ย. 60, คดีระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อ 15 พ.ค.60, คดีระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เมื่อ 22 พ.ค.60  และ ข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง  หลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านบางเขนแล้วพบไปป์บอมบ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ในความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ, มีวัตถุระเบิดและอาวุธปืนเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต, มียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้เสียทรัพย์ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าวตำรวจไปเปิดวีดีทัศน์รวมเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยระบุถึงการสืบสวนจนพบว่าวัสดุที่นำมาประกอบระเบิดมีลักษณะคล้ายกัน จึงเชื่อว่าผู้ประกอบระเบิดในแต่ละจุดเป็นบุคคลเดียวกัน ก่อนพบภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พบผู้ต้องสงสัยขับรถยนต์มาจอดที่การไฟฟ้าย่านบางกรวย จ.นนทบุรี แล้วหยิบถุงพลาสติกออกจากรถ ภายในมีแจกันดอกไม้ ก่อนขี่รถจักรยานมาต่อรถโดยสารสาธารณะ ไปโรงพยาบาลพระมงกุฎฯโดยใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนเข้าไปในห้องวงษ์สุวรรณประมาณ 1 ชั่วโมง 33 นาที  แล้วออกมาก่อนเกิดระเบิดเพียง 10 นาที โดยปรากฏภาพถือถุงพลาสติกแต่ไม่มีแจกันอยู่ด้านใน แล้วเดินต่อไปที่เกาะราชวิถี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นรถโดยสารกลับไปที่การไฟฟ้าย่านบางกรวย 

จากการสืบสวน พบสวิตช์ไฟฟ้า ไอซีทามเมอร์ สายไฟ และแผงวงจร มีลักษณะตรงกันทั้ง 3 คดีที่เกิดขึ้นในปี 2560 และยังตรงกับเหตุระเบิดบางจุดที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 จึงมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนับร้อยตัว จนได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพวัตถุระเบิด จนสามารถกำหนดช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุได้ สามารถจำกัดภาพบุคคลต้องสงสัย ก่อนนำไปสู่การตรวจค้นและพบพยานหลักฐานที่ยืนยันการกระทำผิดของนายวัฒนา ซึ่งให้การอ้างไปถึงเหตุเมื่อปี 2550 ด้วย

พลตำรวจเอกจักรทิพย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า มีผู้อื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ถ้ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้ใดให้ดำเนินการทั้งหมด แม้นายวัฒนา จะสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงลำพัง ยอมรับว่า การป้องกันการก่อเหตุแบบ”โลน วูล์ฟ” (Lone Wolf หมาป่าโดดเดี่ยว) หรือก่อเหตุแบบฉายเดี่ยว  ป้องกันได้ยาก ซึ่งจะต้องมีการทบทวนแผนป้องกันอีกครั้ง

ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า การจับกุมครั้งนี้ ไม่ผิดตัว โดยจะสืบสวนขยายผลต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย