ดีเอสไอลุยตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวน

สำนักข่าวไทย 20 มิ.ย.-ดีเอสไอ ร่วมกับ จ.แม่ฮ่องสอน ลุยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พบออกเอกสารสิทธิ์ขึ้นทะเบียนสวนป่าหวังค้าไม้หวงห้าม


พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อมด้วย นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ต.ท มนตรี บุณยโยธิน ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม  และผู้แทนจากกรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย และพื้นที่สวนป่าในเขต อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน หลังดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากอดีตข้าราชการระดับสูง จ.แม่ฮ่องสอน เกี่ยวกับพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลที่ใช้วิธีการตัดไม้ทำลายป่า แล้วนำไปขึ้นทะเบียนสวนป่าตามพ.ร.บ.สวนป่าพ.ศ.2535 เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด แล้วนำหลัก ฐานที่ดินในรูปแบบประเภทน.ส.3, น.ส.3 ก.,โฉนดที่ดิน , ส.ป.ก.4-01 หรือหลักฐานที่ดินประเภทต่างๆมาอ้างว่าที่ดินดังกล่าวมีการปลูกสวนป่า ซึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นไม้สัก และนำมาขึ้นทะเบียนตามกฎหมายดังกล่าว แต่ความเป็นจริงคือ มีไม้หวงห้ามมีค่าบางส่วนที่ขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ก่อนการขึ้นทะเบียน ต่อมาผู้ที่ขึ้นทะเบียนสวนป่าก็จะขออนุญาตตัดไม้ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อนำไปดำเนินการในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งไม้หวงห้ามที่ไม่ได้ปลูกด้วย

พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐานและพฤติการณ์การกระทำผิดในพื้นที่ พบว่าในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีการขึ้นทะเบียนสวนป่าทั้งหมด 444 แห่ง เนื้อที่ประมาณ 7,849–2-40 ไร่  และพบว่ามีไม้สักขึ้นทะเบียนที่จะถูกตัดจำนวนถึง 816,786 ต้น  แต่ผลการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนส่วนป่าบางแห่งพบข้อเท็จจริง คือ การขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่า รายของนายวิสุทธิ์ บุรุษภักดี พบว่าในพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่อง สอน มีการใช้เอกสาร น.ส.3 ก. จำนวน 14 แปลง รวมเนื้อที่ 391-1-91 ไร่ ได้แก่ น.ส.3 ก.เลขที่ 153, 250 ต.ขุนยวม,เลขที่ 150, 154, 156, 157, 158, 161, 249, 251, 441, 447, 524 และ 587 ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน  มีจำนวนไม้ที่ขอขึ้นทะเบียน 156,200 ต้น ได้มีการรับขึ้นทะเบียนที่ดินดังกล่าวเป็นสวนป่าไว้แล้ว  แต่จากการตรวจสอบของหน่วย งานที่เกี่ยวข้องพบว่า พื้นที่ที่มีการขึ้นทะเบียนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย จำนวน 10 แปลง รวมเนื้อที่จำนวน 278–2-63 ไร่ จำ นวนไม้ที่ขอขึ้นทะเบียน  111,100 ต้น และอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่กันออกจำนวน 4  แปลง รวมเนื้อที่ 112–3-28 ไร่ มีการฟ้อง ร้องคดี โดยศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2538 และเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2546 ว่าเป็นเอกสารปลอม พื้นที่ดังกล่าวมีการตัดไม้ทำลายป่าไปบางส่วนแล้ว เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฯ ดีเอสไอจึงรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ


ส่วนการขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่ารายของนางจตุพร กวีวัฒน์  พบว่ามีการนำโฉนดที่ดินเลขที่ 8463 ออกเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2552 โดยวิธีการเดินสำรวจ มาใช้เป็นหลักฐานการขอขึ้นทะเบียนสวนป่าเนื้อที่ 1-0-10 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวมีไม้สักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ จำนวน 11 ต้น ความโตเฉลี่ย 201.23 เซนติเมตร มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี  ได้นำมายื่นขอขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่าเมื่อวันที่ 6 ส.ค 2555  ตรวจสอบแล้วพบว่าที่ดินตามโฉนดอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายทั้งแปลง โฉนดดังกล่าวออกผิดกฎ หมาย และได้ตัดไม้ธรรมชาติไปหมดทั้งแปลงแล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างดำเนินการของดีเอสไอ

ขณะที่การขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่า รายนางทองใส ญาณวุฒิ พบว่ามีการนำโฉนดที่ดินเลขที่ 758 ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื้อที่ 8– 3 – 37.1 ไร่ ไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสวนป่าต่อผู้ว่าราชการจัง หวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะเป็นนายทะเบียนที่ดินสวนป่า ต่อมาได้ขอถอนคำร้อง และกลับมายื่นคำขอขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่าอีกครั้ง โดยผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและยังไม่มีคำ สั่งรับขึ้นทะเบียน ต่อมาวันที่ 1 ก.พ. 2556 กรมป่าไม้ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ เนื่องจากมีการขออนุญาตทำไม้สักออกพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนฯป่าแม่ปายฝั่งซ้ายทั้งแปลง จึงสั่งการให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอนตรวจสอบข้อเท็จจริงผลการตรวจสอบพบว่า ที่ดินบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 758 ที่ นางทองใส นำมา ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่า โดยเชื่อว่าน่าจะออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  และได้ส่งเรื่องให้กรมที่ดินตรวจสอบ สำนักงานที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าโฉนดที่ดินเลขที่ 758 ได้ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากหลักฐานใบจองออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอน ต่อมาอธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งที่ 3540/2558 ลงวันที่ 29 ก.ย.2558 ให้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว โดยผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน  มีคำสั่งไม่รับขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่ารายนางทองใสจากผลการสืบสวนดังกล่าว ดีเอสไอได้มีหนังสือแจ้งข้อมูลไปยังกรมป่าไม้  เพื่อให้พิจารณาดำเนินการกับผู้บุกรุกพื้นที่ต่อไป พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนข้อมูลให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หากพบว่ามีการกระทำผิดในส่วนใด ก็ให้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]