ชี้การเพิ่มหลักเกณฑ์คัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ไม่อยู่บนพื้นฐานการปฏิบัติจริง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย.-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ การเพิ่มหลักเกณฑ์คัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในกฎหมายพรรคการเมือง ไม่อยู่บนพื้นฐานการปฏิบัติจริง พร้อมระบุ 4 คำถามนายกฯ ไม่อยู่ในหลักวิทยาศาสตร์การสำรวจความเห็น


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเพิ่มหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้แทนพรรคการเมืองในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขอทำความเข้าใจกับเนื้อหาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองก่อน เพราะมีการเพิ่มถ้อยคำ เช่น การคัดเลือกผู้สมัครต้องผ่านการพิจารณาจากสาขาพรรค จากผู้แทนประจำจังหวัดที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้ง จึงไม่แน่ใจว่าต้องผ่านการพิจารณาจากส่วนใดบ้าง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องไปไล่เรียงกฎหมายฉบับนี้

“ทั้งนี้ทราบถึงความตั้งใจและแนวคิดที่หวังดีของผู้ร่าง แต่เนื้อหาของร่างกฎหมายพรรคการเมือง ไม่อยู่บนพื้นฐานการปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการสรรหาบุคคลภายนอกเข้าสู่ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ขณะที่บางพื้นที่ไม่มีสาขาพรรค ก็จำเป็นต้องเร่งจัดตั้ง ซึ่งต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เรื่องสิทธิ์ในการคัดเลือกผู้แทนของพรรคการเมืองหรือไม่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง จะมีการนำร่างสัญญาประชาคมที่จัดทำโดยคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการปรองดอง เปิดเผยต่อสาธารณะได้ภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบแนวทางการจัดทำร่าง และยังไม่เห็นตัวร่างดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากที่มีการรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่าง ๆ ไปแล้ว ล่าสุดเป็นเพียงการเชิญไปตรวจการสรุปความคิดเห็นทั้งหมด และหวังว่าคณะกรรมการฯ จะรับฟังสิ่งที่เสนอไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตัวชี้วัดความสำเร็จในการสร้างความปรองดองที่แท้จริง คงต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองภายหลังการเลือกตั้ง จะมีความขัดแย้งเหมือนเดิมหรือไม่ และต้องให้ทุกฝ่ายทบทวนตัวเองและเรียนรู้บทเรียนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงแค่เชิญทุกฝ่ายมาเซ็นต์เอกสารเท่านั้น

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงภาพรวมการแสดงความคิดเห็น 4 คำถามของนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการสอบถามความคิดเห็นที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ของการสำรวจความคิดเห็น จึงไม่สามารถตอบได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว