กองทัพบก 16 มิ.ย.- โฆษก ทบ. ย้ำซื้อยานเกราะล้อยาง VN-1 ไม่ได้เกรงใจจีน ระบุเด่นเรื่องการส่งกำลังบำรุง-มีโรงซ่อมสร้างในไทย
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงชี้แจงการจัดซื้อยานเกราะล้อยาง VN-1 จากจีน จำนวน 34 คัน มูลค่า 2,300 ล้านบาท ว่า เป็นเรื่องของความจำเป็น เนื่องยานเกราะรุ่นเดิม V-150 ไม่สอดรับกับภารกิจและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซ่อมไม่คุ้มค่า อีกทั้งกองทัพบกมีแผนปรับกำลังให้มีความพร้อมรบ ในปี พ.ศ.2560 – 2564 การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จึงต้องคำนึงถึงความทันสมัย มีระบบอาวุธที่หลากหลาย ระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีเกราะป้องกันตัวเอง และความคล่องแคล่วสูง
โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ทางคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ (กมย.) ของกองทัพบก จึงได้พิจารณาคุณสมบัติดังกล่าวจาก 4 ประเทศที่ผลิตยานเกราะ ทั้งยูเครน รัสเซีย สิงค์โปร์ และจีน แต่จีนมีความโดดเด่นเรื่องการส่งกำลังบำรุง รวมถึงความร่วมมือในการตั้งศูนย์ซ่อมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ในประเทศไทย ส่วนที่ไม่ได้จัดซื้อจากประเทศยูเครน เหมือนที่แล้วมานั้น เนื่องจากมีปัญหาขัดข้องในการจัดส่งจากสถานการณ์ความขัดแย้งภายในประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ยืนยันว่าการจัดซื้อยานเกราะไม่ได้จำเพาะที่ประเทศจีน และไม่ได้เกรงใจประเทศจีน แต่ได้พิจารณาตามคุณสมบัติที่กำหนด ซึ่งการจัดซื้อครั้งนี้เป็นรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี จึงมีความน่าเชื่อถือ
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนที่ไม่ได้พิจารณายานเกราะล้อยาง 8 คูณ 8 (8×8) ที่สถาบันเทคโนโลยีและป้องกันประเทศ (สทป.) สามารถผลิตต้นแบบได้เองแล้วนั้น เพราะยังอยู่ระหว่างของการวิจัยและพัฒนา ยังไม่เข้าสู่สายพานการผลิต ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี อีกทั้งยังไม่ทราบว่าจะมีราคาเท่าไหร่ ส่วนกรณีที่เอกชนไทยก็สามารถผลิตยานเกราะล้อยางได้นั้น ก็เป็นแบบ 4 คูณ 4 (4×4) ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการ แต่กองทัพบก โดย กอ.รมน. ก็ได้นำมาใช้งานในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ แล้ว 13 คัน
โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรมสรรพาวุธทหารบก ได้ประกาศราคากลางการจัดซื้อยานเกราะจีน ในเว็บไซต์เพื่อยืนยันถึงความโปร่งใส ถึงแม้จะไม่มีกฎระเบียบที่ต้องประกาศเพราะเป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ ส่วนการที่ไม่ได้เปิดเผยตั้งแต่แรกเนื่องจากการจัดซื้อ ครั้งนี้เป็นการจัดซื้อเพื่อทดแทนไม่ใช่เป็นการจัดซื้อใหม่ ที่ประชาชนจะให้ความสนใจมากกว่า เช่น การจัดซื้อเรือดำน้ำ.-สำนักข่าวไทย