ดีเอสไอ 16 มิ.ย.- เตรียมเรียกสอบ น้องสาวเจ้าสัว “บุญชัย” หลังพบเอี่ยวเงินสหกรณ์คลองจั่น ขณะที่เจ้าตัวยังไม่พบความเกี่ยวข้องคดีฟอกเงิน
พ.ต.อ.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร และนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข่าวหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีการตรวจ สอบพระธัมมชโยและผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดร่วมกันรับของโจร ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบหลัก ฐานว่ามีความผิดเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง มีการรับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
พ.ต.อ.ปกรณ์ กล่าวว่า ดีเอสไอได้แยกดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ24/2560 แสะสอบสวนต่อเนื่องจนได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว นอกจากนี้ผลการสืบสวนยังพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิธรรมกายอีกส่วนหนึ่งด้วย ดีเอสไอจึงได้แยกเป็นคดีพิเศษออกมาอีกหนึ่งคดีเพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป
ด้าน นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์นั้น พนักงานสอบสวนจะทยอยแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่มีรายชื่อเป็นกรรมการอยู่ในมูลนิธิ โดยเฉพาะนางวรรณา จิรกิติ (ภรรยา นายประกอบ จีรกิติ) น้องสาวนายบุญชัย เบญจรงคกุล ที่มีชื่อเป็นประธานมูลนิธิฯ ก็จะถูกเรียกสอบด้วยเพราะเป็นผู้นำเงินจากวัดพระธรรมกายมาลงทุนก่อสร้างอาคารต่างๆ สำหรับหลักฐานของพนักงานสอบสวนในคดีนี้มีมากกว่า 3 ใน 4 มีหลักฐานเอกสารและเส้นทางการเงินชัดเจน ที่นำเงินของสหกรณ์มาลงทุน ทั้งนี้อยากให้คดีมีความสมบูรณ์มากที่สุด จึงขอ ให้ดีเอสไอสอบสวนพยานเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับตัวบุคคลต่างๆ ส่วนนายบุญชัย ขณะนี้ยังไม่พบความเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน ยืนยันว่าหากหลักฐานถึงใครจะดำเนินการให้ครบถ้วน
นอกจากนี้ นายขจรศักดิ์ ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีฟอกเงินกับนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนที่ดินที่นายบรรณพจน์รับซื้อไว้แล้วถูก ปปง.อายัดจะต้องไปสอบถามเพิ่มเติม คดีนี้ยังมีผู้เกี่ยว ข้องอีกจำนวนมาก สำหรับกรณีที่นายอนันต์ อัศวโภคิน ออกมาระบุว่า จะไม่สามารถเอาผิดได้ในคดีฟอกเงินนั้น ผู้ต้องหามีสิทธิ์จะพูดอะไรก็ได้ แต่สำหรับพนักงานสอบสวนหากไม่มีหลักฐานเพียงพอ จะไปแจ้งความเอาผิดกับผู้เสียหายทำไม.-สำนักข่าวไทย