fbpx

พล.อ.ประวิตร ยืนยัน “วัฒนา” ก่อเหตุระเบิด ที่ รพ.มงกุฎฯ จริง

ทำเนียบฯ 16 มิ.ย.-  พล.อ.ประวิตร ยืนยัน “วัฒนา” ก่อเหตุระเบิด ที่ รพ.มงกุฎฯ จริง แต่ไม่ทราบขบวนการเดียวกับ “โกตี๋” หรือไม่  ให้รอความชัดเจนจากตำรวจ ขณะที่ มีรายงานเลขาธิการนายกฯ เรียกเจ้าหน้าที่กำชับดูแลความปลอดภัยทำเนียบฯ 


พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ กรณีการจับกุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 61 ปี ผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุวางระเบิด ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า ความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน ขอให้รอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยืนยันว่านายวัฒนาเป็นคนก่อเหตุทั้งหมดจริง โดยมีเหตุจูงใจจากการที่ไม่ชอบทหาร และได้ก่อเหตุความรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว 

 ส่วนจะเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกับโกตี๋ หรือ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ทราบต้องรอเจ้าหน้าที่สืบสวนก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังได้ควบคุมตัวหญิงสาวคนใกล้ชิดของนายวัฒนาไว้อีก 1 คน  และคาดว่าจะมีคนใกล้ชิดเข้าร่วมขบวนการเพิ่มเติม แต่ไมพบว่ามีทหารนอกแถวเข้าไปเกี่ยวข้อง” พล.อ.ประวิตร กล่าว


“การที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายวัฒนาได้ในครั้งนี้ เป็นผลจากากรทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด  และพยายามทำทุกอย่างให้เกิดความชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่ไม่สามารถตอบได้ว่า เมื่อจับนายวัฒนาได้แล้ว เหตุรุนแรงจะลดลงหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่า จะมีใครที่เป็นผู้ก่อเหตุเหลืออยู่อีกหรือไม่”  พล.อ.ประวิตร กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เวลา 08.30 วันนี้ (16 มิ.ย.) น.พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เดินทางเข้าพบี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั้วโมง  คาดว่ามารายงานความคืบหน้าการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  

ขณะเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ที่รักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มากำชับในมาตรการการรักษาความปลอดภัยและการปฎิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลและบริเวณโดยรอบ เนื่องจากในเช้าวันนี้ เกิดเหตุชายสูงอายุ ทราบชื่อภายหลังว่า นายสงวน แสงใจหนัก ชาวจังหวัดนครสวรรค์ อายุ 65 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ มาดักรออยู่บริเวณป้ายรถเมล์ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ชูป้ายและตะโกนให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน ที่ จ.นครสวรรค์ จำนวน 33 ไร่         .- สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้