ลำปาง 12 มิ.ย.-พ่อแม่สาวไทย วอนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือลูกสาวพร้อมเพื่อน 10 คน ไปทำงานที่จีน หลังทราบข่าวถูกลอยแพ เผยรู้สึกไม่สบายใจหวั่นเกิดอันตราย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยประจำจังหวัดลำปาง เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 116 บ้านโป่งหลวง อ.เมือง จ.ลำปาง พบกับนายสุข เสารขอ อายุ 65 ปี และนางบัวคำ เสารขอ อายุ 58 ปี บิดามารดาของนางแสงจันทร์ แก้วบุญเรือง อายุ 43 ปี สาวไทยที่กำลังถูกลอยแพ พร้อมกับเพื่อนๆ อีก 10 คนในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในขณะนี้นายสุข และนางบัวคำ ซึ่งเป็นชาวบ้าน มีอาชีพทำไร่ทำนา และเพิ่งทราบข่าวของลูกสาว จากญาติพี่น้องที่รับฟังจากข่าวทางสื่อมวลชนในวันนี้ โดยเจ้าตัวรู้สึกตกใจและมีความเป็นห่วงลูกสาวเป็นอย่างมาก โดยวอนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือให้ลูกสาวได้กลับประเทศไทยด้วย
นายสุข กล่าวว่า หลังจากที่ลูกสาวแยกทางกับสามีก็มาอยู่บ้านได้ประมาณครึ่งเดือนก่อนที่จะขอไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะต้องการไปหาเงินมาเลี้ยงดูลูกและครอบครัว หลังจากที่เดินทางไปแล้วก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากลูกเลย เพราะตนเองและแม่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี เล่นไลน์หรือเฟซไม่เป็น จึงไม่สามารถติดต่อลูกได้
ขณะที่นางแสงจันทร์ ได้แชทผ่านเฟซบุ๊กคุยกับหลานชายว่ารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าหลังมีข่าวออกไปตนเองและเพื่อนๆจะปลอดภัยหรือไม่ จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด่วน ที่สำคัญคือพาสปอตหมดอายุจนกลายเป็นคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังถูกนายจ้างยึดพาสปอตและไม่ยอมต่อวีซ่าให้ และล่าสุดนายจ้างก็ปิดร้านสปานวดไทยและลอยแพทุกคน
ล่าสุดนางแสงจันทร์ ได้แจ้งว่าตนเองและเพื่อนได้ออกจากร้านที่ทำงานและหาห้องเช่าใกล้ๆ ที่เดิมอยู่กันก่อนในวันนี้ โดยได้รับเงินค่าจ้างมาคนละ 5,000 หยวน จากที่จะต้องได้รับ 6,000 หยวน ส่วนค่าประกันจากที่นายจ้างเก็บไปก่อนทำงาน 6,000 หยวนและจะคืนให้เมื่อครบสัญญาหนึ่งปี คือให้เพียง 3,000 หยวนเท่านั้นส่วนเรืองอื่นๆไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กงสุลกรุงปักกิ่ง ได้แชทสอบถามนางแสงจันทร์ และได้ติดต่อ ตม.กรุงปัก เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือแล้ว ซึ่งทาง ตม. แจ้งว่า เคสนี้เป็นการพำนักเกิน 180 วัน จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายของจีน แต่ ตม.ปักกิ่ง จะอะลุ่มอะล่วย โดยจะต้องเสียค่าปรับคนละ 10,000 หยวน และสามารถเดินทางกลับไทยได้เลย หรือหากไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้จะต้องถูกกักกันในสถานกักกันกรุงปักกิ่งตามระยะเวลาที่กรุงปักกิ่งกำหนด ซึ่งนางแสงจันทร์ ได้ตอบกลับไปว่า ไม่มีเงินเสียค่าปรับเพราะเราโดนหลอกจึงต้องขอความช่วยเหลือจากกงสุล.-สำนักข่าวไทย