เกาะติดปมร้อนวงการสงฆ์ ทุจริตเงินอุดหนุนวัด

10 มิ.ย. – สำนักข่าวไทย ยังคงเกาะติดปมร้อนวงการสงฆ์ โดยเฉพาะประเด็นการทุจริตเงินอุดหนุนวัด ที่ขณะนี้พบว่ามีวัด 12 แห่งทั่วประเทศเข้าข่ายทุจริต โดย 1 ในนั้นเป็นวัดดังของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนมูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้นมีมากถึง 60 ล้านบาท


พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ถึง กรณีเจ้าหน้าที่ ปปป. เปิดยุทธการปราบโกงวัด ครั้งที่ 1 เพื่อติดตามจับกุมเครือข่ายทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะปฏิสังขรณ์วัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ตรวจพบว่า มีวัด 12 วัดที่ทุจริต รวมความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท 

สำหรับที่มาของเรื่องนี้ ปปป. ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เมื่อปี 2558 ว่าได้รับเบาะแสการทุจริตจากวัดแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี โดยมีการโอนเงินมาให้วัดจำนวน 1 ล้านบาท แต่กลับแจ้งให้วัดนำเงินกลับคืนให้เจ้าหน้าที่ของสำนักพระพุทธศาสนา 8 แสนบาท หรือเรียกกันว่า “เงินทอน” เจ้าอาวาสจึงแจ้งมายัง สตง.ให้ตรวจสอบ ทำให้พบความผิดปกติของเส้นทางการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ของสำนักงานพระพุทธศาสนา จึงได้ส่งต่อข้อมูลให้กับ ปปป.เมื่อเดือนสิงหาคม 2558 


ทั้งนี้ ปปป. ได้ทำการสืบสวนสอบสวนต่อ จนมีพยานหลักฐานเพียงพอ ไปขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 แห่ง ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาประกอบด้วย บ้านพักใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นของเครือข่ายของอดีตข้าราชการ และข้าราชการระดับสูงของสำนักงานพระพุทธศาสนา

ส่วนงบประมาณที่มีการทุจริต คือ งบอุดหนุนวัดที่นำไปใช้บูรณะปฎิสังขรณ์แต่ละปี สำนักงานพระพุทธศาสนา จะมีงบฯ ตรงนี้ให้วัดทั่วประเทศปีละ 400-500 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจะต้องให้แต่ละวัดทำโครงการ เสนอของบฯ ไปยังคณะกรรมการของสำนักงานพระพุทธศาสนา เมื่อผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจะโอนเงินเข้าบัญชีวัด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งพฤติการณ์ของขบวนการนี้จะมีกลุ่มผู้กระทำผิดไปติดต่อเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ตกลงกันจะมีงบประมาณมาให้วัด แต่วัดจะต้องมีเงินคืนให้ร้อยละ 80 หรือ ให้งบฯ วัด 1 ล้านบาท วัดต้องคืนกลับ 8 ล้านบาท เฉลี่ยมูลค่าการทุจริตอยู่ที่วัดละ 4 ล้านบาท  เพื่อแลกกับงบประมาณที่ได้อย่างรวดเร็ว แต่โครงการต่าง ๆ ทางวัดไม่ทราบเนื่องจากกลุ่มนี้จะดำเนินการทั้งหมด ก่อนส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาพิจารณา โดยวัดที่มีข้อมูลยอดเงินทุจริตมากที่สุดคือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร มูลค่า 13 ล้านบาท รองลงมาคือ วัดห้วยตาแกละ 11 ล้านบาท

สำหรับ 12 วัดที่เข้าข่ายทุจริตเงินอุดหนุนวัด มีอยู่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน วัดห้วยตะแกละ จ.เพชรบุรี  วัดราชบุรณะ (วัดนอก) จ.ชุมพร วัดโพธิ์ศรี, วัดโคกเพลาะ ,วัดพระศรีเจริญ จ.อำนาจเจริญ   และวัดวัฒนาราม, วัดหาดปู่ด้าย, วัดทุ่งต๋ำ ,วัดบ้านอ้อ, วัดอุมลอง จ.ลำปาง. -สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นเสี่ยงร่วมกระทำผิด

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง