กรุงเทพฯ
3 มิ.ย.-เงินบาททยอยอ่อนค่าลง โดยเงินบาทชะลอการแข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์
หลังธปท. ระบุถึงความพร้อมที่จะเข้าดูแล
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย รานงานงานว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาชะลอการแข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์
หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุถึงความพร้อมที่จะเข้าดูแล
เพื่อบรรเทาความผันผวนของค่าเงิน แต่ (เงินบาท)
ดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์
ตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาคที่ได้รับอานิสงส์จากเงินหยวนที่ปรับตัวแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ
7 เดือน
อย่างไรก็ดี
เงินบาทกลับมาทยอยอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์
สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ
ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ก็สามารถทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.
ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งสนับสนุนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
สำหรับในวันศุกร์ (2 มิ.ย.)
เงินบาทอยู่ที่ 34.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ในวันศุกร์ก่อนหน้า (26 พ.ค.)
ด้านดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,567.60 ลดลง 0.11%
จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 0.24% จากสัปดาห์ก่อน มาที่
38,467.12 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 569.83 จุด ลดลง 0.56%
จากสัปดาห์ก่อน
สัปดาห์ถัดไป
(5-9 มิ.ย.)บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,555 และ
1,545 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,575
และ 1,590 จุด ตามลำดับ ส่วนธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่
33.90-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามกำหนดการแถลงข่าวการปฏิรูปกฎเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินของ
ธปท. ในวันที่5 มิ.ย. ขณะที่ ประเด็นสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ
น่าจะอยู่ที่ประเด็นการเมืองภายใน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค.
ยอดสั่งซื้อของโรงงานและสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย. นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามการเลือกตั้งในอังกฤษ
ผลการประชุม ECB และตัวเลขเศรษฐกิจจีนด้วยเช่นกัน-สำนักข่าวไทย