ฉะเชิงเทรา 3 มิ.ย.-5 นักเรียนจาก จ.ขอนแก่น มาเที่ยว จ.ฉะเชิงเทรา พบเงินตกอยู่ที่พื้นหน้าตู้ ATM เกือบครึ่งแสน พากันช่วยนั่งเฝ้าเอาไว้ ก่อนโทรแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบหาเจ้าของ ด้านเจ้าของเงินรู้ตัวทำเงินหาย เดินย้อนกลับมาดู มอบเงิน 4,000 บาท เป็นน้ำใจให้ แต่กลุ่มนักเรียนน้ำใจงามตัดสินใจร่วมกันนำเงินรางวัลที่ได้ไปทำบุญโลงศพ
เมื่อเวลา 20.40 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราได้รับแจ้งมีพลเมืองดีพบเงินสดจำนวนหลายหมื่นบาท ตกอยู่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนมหาจักรพรรดิ์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงจำนวน 5 คน กำลังนั่งอยู่ในบริเวณนั้น โดยกล่าวว่า พวกตนเป็นนักเรียนจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น เดินทางมาเที่ยวที่ฉะเชิงเทรา โดยพากันไปทานข้าวในร้านที่อยู่ไม่ไกลจากจุดนี้ หลังจากนั้นเดินเท้าเพื่อจะกลับที่พัก และได้สังเกตห็นว่ามีธนบัตรจำนวนมากตกอยู่ที่พื้นบริเวณหน้าตู้ ATM ของธนาคาร จึงได้ปรึกษากันว่าให้ช่วยกันนั่งเฝ้าธนบัตรดังกล่าวไว้ ก่อนโทรศัพท์ติดต่อตำรวจให้มาตรวจสอบเพื่อตามหาและส่งคืนให้เจ้าของต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบของตำรวจพบว่าธนบัตรที่ตกอยู่เป็นชนิดใบละ 1,000 บาท และ 500 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 41,000 บาท
ระหว่างที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ มีนาย MIN NYI NAING สัญชาติเมียนมาร์ เดินมาพร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าของเงินดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมากดเงินเพื่อจะขึ้นรถต่อเพื่อกลับบ้าน หลังเดินทางมาทำงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างเดินไปขึ้นรถ สังเกตว่าเงินที่เพิ่งกดออกมาหายไป จึงเดินย้อนกลับมาที่ตู้ และก็พบตำรวจยืนอยู่ จึงเข้าแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของตำรวจ ผู้เสียหายได้ยืนยันชนิดของธนบัตร และจำนวนเงินที่ถูกต้อง ตำรวจจึงมอบเงินดังกล่าวคืนให้ไป
นาย MIN NYI NAING เจ้าของเงิน ได้แสดงน้ำใจ มอบเงินสดจำนวน 4,000 บาท ให้กลุ่มนักเรียนกลุ่มนี้เป็นการตอบแทน ซึ่งหลังจากได้รับเงินที่เจ้าของมอบให้ นักเรียนกลุ่มนี้ได้ปรึกษากันว่าควรนำเงินที่ได้ไปร่วมทำบุญ จึงนำเงินดังกล่าวไปทำบุญบริจาคโลงศพให้ศพไร้ญาติที่สมาคมสงเคราะห์การกุศลจังหวัดฉะเชิงเทรา โดย 5 นักศึกษาน้ำใจงามกลุ่มนี้ ประกอบด้วย นายธัชธรรม วงศ์ชารี, น.ส.ณิชมน นฤดีศรีอุทัย, น.ส.รัชนีกร จุ้ยกุดแคน และ น.ส.จุฑามณี สารภักดี ทั้งหมดเป็นนักเรียนจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น.-สำนักข่าวไทย