ไทย-ญี่ปุ่นผนึกกำลังต้านประมงไอยูยู

ญี่ปุ่น  1 มิ.ย. –  ไทย-ญี่ปุ่นคู่ค้าสินค้าประมงสำคัญ ลงนามแถลงการณ์ร่วมผนึกกำลังต้านประมงไอยูยู พร้อมเจรจาผลักดันความร่วมมือพัฒนาขีดความสามารถด้านการเกษตรของ 2 ประเทศ

พลเอกฉัตรชัย  สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือและลงนามในแถลงการณ์ร่วมต่อต้านการทำประมงไอยูยู กับนายยูจิ ยามาโมโต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น  ณ กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงญี่ปุ่น  ว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของ 2 ประเทศที่จะร่วมกันต่อต้านกิจกรรมการทำการประมงไอยูยูและมุ่งมั่นที่จะร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์และแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรสิ่งมีชีวิตในทะเลอย่างยั่งยืน  

ทั้งนี้ การร่วมมือและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไอยูยูระหว่างกันภายใต้กลไกของทั้ง 2 ประเทศตามวิธีการต่าง ๆ ขององค์กรระหว่างประเทศและองค์กรระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความเข้มแข็งการตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวัง ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อต่อต้านประมงไอยูยูร่วมมือกันในการปฏิบัติตามมาตรการรัฐเจ้าของท่า (PSM) กฎระเบียบของ องค์การบริหารจัดการประมงระดับภูมิภาค หรือ RFMOs ที่ทั้ง 2 ประเทศเป็นสมาชิก หรือเป็นประเทศที่เข้าร่วม รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อการต่อต้านการประมงผิดกฎหมายระหว่างกัน อาทิ เอกสารการจับสัตว์น้ำ การตรวจสอบย้อนกลับของผลิตภัณฑ์ประมงที่จะต้องทำงานร่วมกับประเทศที่เป็นตลาดสินค้าประมงที่ทำการประมงร่วมกันโดยตรง หรือกลุ่มประเทศที่ 3 ที่รับวัตถุดิบสินค้าประมงไปแปรรูป เพื่อให้การค้าสินค้าประมงเกิดจากการประมงถูกกฎหมายครบทั้งระบบ  และที่สำคัญยังเป็นการแสดงถึงบทบาทของไทยในการเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาประมงไอยูยูในระดับนานาชาติด้วย

“ญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสินค้าประมงสำคัญของไทย ไตรมาสแรกปี 2560 มีสัดส่วนร้อยละ 21.37 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าประมงทั้งหมด มีปริมาณ 50,818.70 ตัน มูลค่า 10,843.31 ล้านบาท สินค้าประมงที่ส่งออกไปญี่ปุ่นที่สำคัญ คือ กุ้งปรุงแต่ง เนื้อปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ขณะที่มีการนำเข้าสินค้าประมงจากญี่ปุ่นมาไทยปริมาณ 10,613.67 ตัน มูลค่า 749.09 ล้านบาท” พลเอกฉัตรชัย กล่าว 

นอกจากความร่วมมือด้านประมงแล้ว กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงญี่ปุ่น ยินดีที่จะสนับสนุนการดำเนินการภายใต้กรอบ High Level Cooperation Dialogue และการประชุมคณะอนุกรรมการ และคณะอนุกรรมการพิเศษ ภายใต้กรอบเจ-เทป-ป้า ร่วมกันต่อไป ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อหารือโครงการความร่วมมือด้านการเกษตร ชลประทาน หม่อนไหม และข้าว การอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกัน มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช การกักกันพืช ความร่วมมือด้านสหกรณ์ และสร้างเครือข่ายด้านสหกรณ์ของสองประเทศ  ทำให้การดำเนินความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่าง 2 ฝ่ายมีความก้าวหน้าขึ้น รวมถึงถือโอกาสเชิญรัฐมนตรีเกษตรฯ ญี่ปุ่นเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเกษตร ประมง และป่าไม้อาเซียน ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย 

สำหรับสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรไทย-ญี่ปุ่น ปี 2557 – 2559 พบว่า มีมูลค่าการค้าเฉลี่ย 147,426 ล้านบาทต่อปี อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.65 ต่อปี มูลค่าส่งออกของไทยเฉลี่ย 137,860 ล้านบาทต่อปี ขณะที่มูลค่านำเข้าของไทยเฉลี่ย 9,566 ล้านบาทต่อปี โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าตลอดเฉลี่ย 128,294 ล้านบาทต่อปี ล่าสุดไตรมาสแรกปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2559 พบว่าไทยเกินดุลการค้า 33,765 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจาก 31,047 ล้านบาทในปี 2558) โดยกลุ่มสินค้าสำคัญที่ไทยเกินดุล คือ อาหารปรุงแต่ง 17,203 ล้านบาท ปลาและสัตว์น้ำ 3,243 ล้านบาท อาหารสัตว์ 2,568 ล้านบาท และเนื้อสัตว์ 2,477 ล้านบาท ขณะที่ไทยนำเข้า 2,215 ล้านบาท  โดยกลุ่มสินค้าสำคัญ คือ ปลาและสัตว์น้ำ ซอส/เครื่องปรุง เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย