ขอนแก่น 30 พ.ค.-คุม “วศิน” หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม และถูกจับได้ในเวียงจัทน์ สปป.ลาว มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่รีสอร์ท ล่าสุดจับกุม “เบนซ์” ได้อีก 1 คน
ความคืบหน้าฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 30 พ.ค. พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมตำรวจชุดเฉพาะกิจ บก.สส.ภ.4 นำตัวนายวศิน นามพรม อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม และถูกจับได้ในเวียงจัทน์ สปป.ลาว มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวมาดูการทำแผนอย่างเนืองแน่น พร้อมสาปแช่งให้ตายไปตามแอ๋ม
จุดแรก นำตัวนายวศิน ไปชี้ป้ายที่เป็นสถานที่รีสอร์ต โดยขับรถเข้ามาจอดหน้าห้องพัก เข้าห้องพักจากนั้นเดินเข้าไปเข้าห้องน้ำ พร้อมกับนั่งดูเหตุการณที่ น.ส.เปรี้ยว พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 3 คน ไปที่รถยนต์อุ้มแอ๋มที่ถูกบีบคอตายแล้วตั้งแต่อยู่ในรถลงมาและอุ้มไปที่ห้องน้ำ จับให้แอ๋มนอนตะแคงในห้องน้ำ จากนั้นก็ใช้มีด เลื่อย และของมีคม ที่ซื้อมาตามทางที่ขับรถผ่าน จัดการหั่นศพ แล้วยัดใส่ถัง 2 ใบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อาบน้ำแต่งตัวสวยออกมาจากห้องพัก นำกุญแจห้องไปด้วย และไม่จ่ายเงินค่าห้อง
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า คดีนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งพบศพแอ๋มถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยการหั่นศพยัดใส่ถัง แล้วไปฝังในเขตพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนจากพยานบุคคล วัตถุพยานต่างๆ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อยู่แถวผู้ตายพัก จนมีภาพเห็นรถยนต์ซีอาร์วีขับวนไปวนมาหลายครั้ง โดยระบุวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้จับจุดที่รถยนต์คันดังกล่าว และก็ทราบว่ารถยนต์คันนี้ได้เช่ามาในวันนั้น โดยมี น.ส.เปรี้ยว เป็นคนลงชื่อขอเช่ารถ และการสืบสวนขยายผลในหลายรูปแบบจนทราบว่าแอ๋มกับผู้ต้องหาทำงานอยู่ที่เดียวกัน แอ๋มมีเหตุทะเลาะกับ น.ส.เปรี้ยว หลายเรื่องจนเป็นเหตุให้ น.ส.เปรี้ยวชวนผู้ต้องหาทั้งหมดไปก่อเหตุฆ่าแอ๋มดังกล่าว
พล.ต.ต.ยรรยง ผบก.สส.ภ.4 กล่าวว่า การค้นห้องที่คนร้ายใช้ก่อเหตุครั้งนี้ เพื่อนำมาตรวจดีเอ็นเอ ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม ที่นอน และทุกอย่างที่อยู่ภายในห้อง โดยให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ตรวจสอบ นำดีเอ็นเอมาประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน อย่างไรก็ตามตำรวจชุดจับกุมได้จับกุม น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ (เบนซ์) เป็นผู้ต้องหาหลบหนีในคดีดังกล่าวได้อีก 1 คน ที่ จ.อุบลราชธานี ส่วน น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา กำลังหลบหนีในประเทศเมียนมาร์ สาเหตุการสังหารมาจากเรื่องส่วนตัวของผู้ตายกับ น.ส.ปรียานุช ที่ทะเลาะกันหลายเรื่อง และโกรธมากที่ผู้ตายบอกให้ตำรวจไปจับแฟนของ น.ส.ปรียานุช ที่เป็นคนลักลอบค้ายาเสพติดจนถูกดำเนินคดีและถูกคุมขังในเรือนจำจนถึงเดี๋ยวนี้