ผบ.ทบ.ไม่ชี้ชัดผู้ก่อเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ เชื่อมโยง “โกตี๋” หรือไม่

กองทัพบก 25 พ.ค.-ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ชี้ชัดผู้ก่อเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เชื่อมโยง “โกตี๋” หรือไม่ แต่ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยแล้ว ยืนยัน กกล.รส. พร้อมสนับสนุนตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยหากมีคำสั่ง


พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าของเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า ขณะนี้ ภาพรวมมีความคืบหน้าทางคดีไปพอสมควร เท่าที่ทราบ คือ มีพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุ และมีกล้องวงจรปิดที่ให้ข้อมูลพอสมควร เบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่ามีผู้ต้องสงสัยกี่คน เพราะในส่วนของคดีความเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดตาม คาดว่ามีโอกาสที่จะได้ตัวผู้กระทำผิดในอนาคต ขณะที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของทหารพร้อมสนับสนุนในเรื่องของกำลังพล หากตำรวจขอความช่วยเหลือ ส่วนตัวได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งเป็นภาพรวมของบุคคลที่เข้าออกภายในบริเวณที่เกิดเหตุ

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งคนในและคนนอกประเทศนั้น พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เชื่อว่านายกรัฐมนตรีพูดในภาพรวม เพราะที่ผ่านมา มีคนกลุ่มหนึ่งที่หลบหนีคดีไปอยู่ในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านแล้วแสดงท่าทีก้าวร้าว ใช้กำลังและปลุกระดมให้คนใช้กำลัง ส่วนคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการก่อเหตุระเบิดนั้น ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นกลุ่มนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าเป็นคนภายในที่มีการเชื่อมโยงกันในกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่เคยจับกุมตัวไป 


“อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า กลุ่มที่หลบหนีคดีในประเทศเพื่อนบ้านนั้น มีความเกี่ยวโยงกับนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ซึ่งเท่าที่ผ่านมามีการปลุกระดมเรื่องการใช้อาวุธผ่านทางโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด ซึ่งได้มีการประสานงานกับทางการลาวไปแล้ว แต่ขณะนี้เรื่องยังเงียบ” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายโกตี๋เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีวางระเบิด ทางการไทยจะประสานงานกับทางการลาวเพิ่มเติมจากคดีหมิ่นเบื้องสูง เพื่อให้ส่งตัวกลับมาหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า นายโกตี๋อยู่ระหว่างการหลบหนีคดีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาจึงประสานงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางการลาวยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุระเบิดนั้นคือใคร ยังมีเพียงแค่ผู้ต้องสงสัย

ส่วนจะเป็นกลุ่มเกี่ยวกับที่เผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติที่ จ.ขอนแก่นหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นการปลุกระดมให้กลุ่มคนมาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ แต่ไม่ทราบ และไม่กล้าฟันธงว่าจะเชื่อมโยงกับกรณีเหตุระเบิดหรือไม่ จึงขอให้แยกออกเป็นสองกรณี 


“ในกรณีเผาซุ้มนั้น ได้จับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง 9 คน และส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายไปแล้ว ซึ่งไม่มีหลักฐานที่จะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งในกรณีของ 9 คนนี้ มีผู้จ้างวานเป็นผู้ใหญ่ 1 คน นอกนั้นเป็นเด็กทั้งหมด ซึ่งรับค่าจ้างมาคนละ 200 บาท โดยไม่รู้เรื่องอะไร เด็กแค่ต้องการได้เงิน 200 บาท จึงไม่ใช่กระบวนการของผู้ใหญ่ และไม่ได้มีสิ่งใดมาเชื่อมโยง” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้เพิ่มกำลังเข้าดูแลรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่ ทั้งสถานที่ราชการ สถานที่ที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยพยายามขยายกำลังพลให้มากที่สุด รวมทั้งต้องช่วยกันทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย นอกจากนี้ยังให้ความรู้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยในการดูแลความปลอดภัย พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจ อย่าตื่นตระหนก

ส่วนการตรวจสอบจดหมายขู่วางระเบิดนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ตามข่าวที่ออกมา ชื่อที่ถูกอ้างก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง

“การก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะยังมีเพียงผู้ต้องสงสัย ซึ่งจะสงสัยใครก็ได้ ในการที่จะสรุปว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุนั้นจะต้องมีหลักฐานอย่างชัดเจน เพื่อมุ่งไปสู่ตัวผู้ก่อเหตุ เพราะฉะนั้นการจะระบุว่าใครเป็นผู้ต้องสงสัยนั้นไม่เป็นผลในเชิงบวกกับสถานการณ์ที่กำลังเข้าสู่ความปรองดอง และส่วนตัวไม่กล้าวิเคราะห์ว่าจะเกี่ยวข้องกับทหารแตงโมหรือไม่ รอฟังความคืบหน้าจากตำรวจอีกครั้ง เพราะการเดาสุ่มนั้นไม่เกิดประโยชน์กับสังคม” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

ส่วนเหตุระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเกี่ยวข้องกับการลดบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผู้ก่อเหตุจะหาจังหวะ เวลา และโอกาสเพื่อก่อเหตุอยู่แล้ว อย่าไปมองที่ตัวบุคคล พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประวิตร แค่ต้องการดูแลสุขภาพช่วงหนึ่งเท่านั้น และล่าสุดได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว

ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงกรณีที่หน่วยงานความมั่นคงเตรียมพิจารณานำคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 55/2559 เรื่องการดำเนินคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้ในสงคราม รวมถึงคดีความมั่นคงบางคดีให้อยู่ในอำนาจศาลทหาร นำกลับมาบังคับใช้ใหม่อีกครั้งหลังจากเคยยกเลิกไปแล้ว ว่า ได้มีการหารือในระดับผู้ใหญ่ แต่ยังเป็นเพียงการหารือเท่านั้น ยังไม่เป็นนโยบาย และยังไม่มีการเสนอไปยังหัวหน้า คสช. เพื่อพิจารณาแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว