กทม.24 พ.ค.- ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ จับเจ้าของร้านซื้อขายรถจักรยานยนต์จากแก๊งโจรกรรมพร้อมลูกน้องอีก 3 ขณะยกรถของกลาง 24 คันขึ้นรถบรรทุกแช่แข็ง สารภาพขายได้กำไรคันละ 1,000-3,000 บาท
พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงว่า นายนนทนันท์ จุ่นวาที, นายอาทิตย์ ศักดิ์ขจรชัย,นายชาลี มังกรคณที อายุ 18 ปี และนายตี๋ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ถูกตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะจับพร้อมรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็น ทะเบียน 62-2230 กรุงเทพฯ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ ซึ่งได้จากการโจรกรรมจำนวน 24 คัน ที่ร้านรับซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสอง ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 36 ซอยสุขสวัสดิ์ 30 เขตราษฎร์บูรณะ เป็นการขยายผลจากฝ่ายสืบสวน สน.สมเด็จเจ้าพระยา จับแก๊งลักรถจักรยานยนต์(เครือข่ายจรัญฯ 37) 4 คน พร้อมของกลางกว่า 20 คัน เมื่อ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากนั้น สน.ราษฎร์บูรณะ สืบทราบว่า นายนนทนันท์ เจ้าของร้านซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสอง ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 เป็นผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางบางส่วนมาจากแก๊งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อน จึงเฝ้าสังเกตหน้าร้าน พบนายนนทนันท์ มักจะให้ลูกน้องช่วยกันขนรถจักรยานยนต์บางส่วนจากในร้านไปเก็บในรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็น ก่อนเคลื่อนไปจอดตามลานโล่งห่างจากร้านในช่วงเวลากลางวัน พอร้านปิดก็ไปขับรถบรรทุกมาจอดหน้าร้าน ขณะจับกุมนายนนทนันท์ ได้ให้นายอาทิตย์, นายชาลีและนายตี๋ ซึ่งเป็นลูกจ้างช่วยกันยก รถจักรยานยนต์นับสิบคันขึ้นไปไว้บนรถบรรทุก จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ซึ่งนายนนทนันท์ไม่สามารถแสดงเอกสารการครอบครองรถจำนวน 24 คัน และจากการตรวจสอบรถบางคันพบมีประวัติถูกโจรกรรมมาจากพื้นที่ สน.บางซื่อ สน.ประชาชื่น และ สน.สุทธิสาร
นายนนทนันท์ ให้การว่า เปิดทำธุรกิจรับซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสองทุกชนิด ควบคู่กับเปิดบริษัทอร่อยจัง ส่งอาหารแช่แข็ง และน้ำดื่มประเภท ชา กาแฟ น้ำหวานแช่เย็นให้ร้านสะดวกซื้อ ทำให้มีรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็น ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจยึดได้ บางส่วนรับซื้อมาจากแก๊งลักรถที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้าราคาคันละ 5,000 – 7,000 บาท แต่ส่วนหนึ่งรับซื้อมาจากเว็บไซต์ขายรถหลุดจำนำ ที่มักปล่อยรถให้ลูกค้าตลาดมืดในราคาถูกก่อนนำมาเก็บไว้เพื่อรอติดต่อลูกค้าขาประจำคือนายเอ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุประมาณ 30 ปี มาซื้อทั้งคันโดยไม่ต้องแยกชิ้นส่วน และส่งต่อย่านพุทธมณฑลสาย 1 และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตนคิดกำไรคันละ 1,000-3,000 บาท.-สำนักข่าวไทย