กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมชลประทานเตรียมพร้อมรับฝนตกหนัก 24 – 29 พ.ค.นี้ เน้นใช้อาคารชลประทานและระบบชลประทานบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพ
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าวันที่ 24 – 29 พฤษภาคม จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยภาคใต้จะมีฝนตลอดช่วงและตกหนักบางแห่ง
นายทองเปลว กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้สั่งการไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน เพื่อให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยจะใช้ระบบชลประทานและระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำในจุดที่มักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ตอนบนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ ส่งผลให้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น นั้น ช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ค. 60) ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,373 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 649 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ไปจนถึงตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมเป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้กรมชลประทานทำหนังสือแจ้งรายงานสถานการณ์น้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย