สุรชัย ห่วงกฎหมายลูกแนะตีความให้ชัดไม่อยากเห็นขัดแย้ง

จันทบุรี 21 พ.ค.- รองประธาน สนช. ฝาก กมธ.พิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับตีความกรอบเวลาการเลือกตั้งภายใน 150 วันให้ชัดเจน


นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวปิดการสัมมนาเรื่องร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่โรงแรมนิวแทรเวล ลอด์จ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคมว่า เป้าหมายของการสัมมนาครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อหาข้อยุติ แต่เพื่อรับฟังความเห็นจากสมาชิกประกอบการตัดสินใจ เมื่อร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเข้าสู่การประชุม สนช. และสมาชิก สนช.ต้องนำข้อดีข้อเสียที่กรรมาธิการได้ชี้แจงมาชั่งน้ำหนักแล้วตัดสินใจด้วยตนเองบนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศ ทั้งนี้หากพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับเสร็จสิ้น ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งภายใน 150 วัน ซึ่งยังเป็นปัญหาว่า กรอบเวลาดังกล่าวรวมถึงการประกาศผลการเลือกตั้งหรือไม่ ดังนั้นจึงฝากให้คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ไปพิจารณาหาความชัดเจน หลังจาก กกต. และ กรธ. มีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า เรื่องนี้สามารถกำหนดให้ชัดเจนในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. 

“ผมขอฝากคณะกรรมาธิการที่พิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ต้องพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อตอบโจทย์การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม ให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมืองต่อไปในอนาคต ทำอย่างไรให้มีกฎหมายส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างแท้จริงในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ทำอย่างไรที่จะได้มีกฎหมายที่ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยที่การเมืองไม่ถูกผูกขาดด้วยนักการเมือง ผมไม่ต้องการเห็นการตั้งกรรมาธิการร่วมเพื่อหาทางออกกรณีมีความขัดแย้งในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงฝากให้คณะกรรมาธิการฯพิจารณาเป็นอย่างดี อย่าให้บทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญขัดต่อรัฐธรรมนูญ”นายสุรชัย กล่าว


ด้านพลเอกศุภวุฒิ อุตมะ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.สนช. กล่าวว่า ประเด็นในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ที่ค้างการพิจารณา คือ ประเด็นการยกเลิก กกต.จังหวัดแล้วให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งแทน และการคงอยู่ของ กกต.ชุดปัจจุบัน ซึ่งประเด็นผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้น ได้วิเคราะห์ว่า ข้อดีของการกำหนดให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง จะเป็นการปรับรูปแบบใหม่ ลดข้อครหาการใช้อำนาจที่ไม่เป็นกลางของ กกต.จังหวัด ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น สนับสนุนการผลิตงานของ กกต. ลดข้อครหาเรื่องความใกล้ชิดของพื้นที่ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเป็นอิสระ คล่องตัว อีกทั้งคุณสมบัติของผู้ตรวจการเลือกตั้งก็กำหนดไว้สูง และจะช่วยถ่วงดุลอำนาจของผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดด้วย แต่ข้อดีของ กกต.จังหวัด ก็จะเข้าใจพื้นที่มากกว่า ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้ง กกต.จังหวัด มีความผูกพันในพื้นที่มากกว่าและผู้ตรวจการเลือกตั้งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงเมื่อเทียบกับ กกต.จังหวัด 

ทั้งนี้ จากการสัมมนา สมาชิก สนช.ได้มีข้อสังเกตว่า รูปแบบของผู้ตรวจการเลือกตั้ง ไม่เคยมีใช้ในประเทศใดมาก่อน จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และจากที่ กรธ.มีข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งล้มเหลวเพราะ กกต.จังหวัดนั้น เป็นความจริงหรือไม่ ขณะที่การปฏิบัติงานของผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้น จะต้องทำงานเต็มเวลาหรือไม่ และหากผู้ตรวจการเลือกตั้ง มีภูมิลำเนาอยู่เชียงใหม่ แต่จับสลากได้ไปอยู่ในจังหวัดยะลา จะต้องย้ายไปหรือไม่ ซึ่งจากความเห็นทั้งหมดนี้ คณะกรรมาธิการจะนำกลับไปหารือ และขอความเห็นจาก กรธ. กกต.และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาสรุปต่อไป

ส่วนเรื่องการคงอยู่ของ กกต. ชุดปัจจุบัน ในการสัมมนาเห็นว่า ควรยึดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 273 ที่ให้การคงอยู่นั้นขึ้นอยู่กับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับว่า กฎหมายจะกำหนดไว้อย่างไรก็ได้ เบื้องต้นได้แบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ การเซ็ตซีโร่ ให้มีการสรรหาคณะกรรมการ กกต. ใหม่ทั้งหมด / การรีเซ็ตโดยให้ กกต. ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญ พ้นตำแหน่งและสรรหาเพิ่มทำจำนวนที่ขาดไป และอีกแนวทาง คือ ให้ กกต. ชุดปัจจุบันอยุ่ต่อไปจนครบวาระตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ปี2550 กำหนด 


ทั้งนี้ สมาชิกส่วนใหญ่กำหนดหลักการพิจารณา ว่า ต้องยึดหลักกฎหมาย จะต้องไม่มีผลย้อนหลัง และต้องคำนึงถึงหลักปัจเจกชนด้วย พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า การคงอยู่ของกกต.ชุดปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ หากในรัฐธรรมนูญ มีบทเฉพาะกาล จะต้องพิจารณาที่บทเฉพาะกาลก่อน โดยยังไม่ต้องไปคำนึงถึงบทหลักว่าจะขัดหรือแย้งหรือไม่

ด้านพลเอกสมเจตน์ บุญถนอม ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวว่า เรื่องการจ่ายทุนประเดิมจัดตั้งพรรคการเมือง ยังมีความเห็นที่หลากหลาย บางส่วนเห็นว่า ไม่ควรมี เพราะจะเป็นการขวางกั้น ไม่ให้ผู้ยากไร้ได้จัดตั้งพรรคการเมือง แต่บางส่วนเห็นว่า ควรจะมี เพราะพรรคการเมืองจะได้ไม่เป็นเครื่องมือของนายทุน ขณะที่การจ่ายค่าบำรุงสมาชิกพรรคการเมือง มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่ในร่างกฎหมายลูกฉบับนี้ กำหนดให้ต้องจ่ายค่าสมาชิก เพราะในอดีต สมาชิกและพรรคการเมืองไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน ไม่มีการดำเนินการกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาชิกและพรรคการเมือง จึงเกิดการสมัครสมาชิกซ้ำซ้อนในหลายพรรคการเมือง โดยในร่างนี้ กำหนดให้จ่ายไม่น้อยกว่า 100 บาทต่อปี แต่บางส่วนเห็นว่า ควรให้จ่ายน้อยกว่า 100 บาทต่อปี หรือในปีแรกควรจะงดเว้นการเก็บค่าสมาชิก นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการปฏิรูปพรรคการเมือง ที่เสนอให้สมาชิกพรรคการเมืองมีส่วนในการเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย