ไบเทค 18 พ.ค. – ธนาคารแห่งประเทศจีนนำนักธุรกิจจีนจับคู่นักธุรกิจไทยครั้งใหญ่ ขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน เตรียมลงพื้นที่อีอีซี รับฟังนโยบายส่งเสริมลงทุน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “Thailand Cross Border Trade & Investment Conference” หรือการประชุมเจรจาจับคู่ธุรกิจไทย-จีน จัดโดยธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และปาฐกถาพิเศษ ว่า รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนนโยบาย One Belt One Road ของจีน เพื่อเชื่อมโยงการค้าการลงทุนของจีนผ่านอาเซียนโดยไทยเป็นศูนย์กลาง จึงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้าหลายเส้นทาง ระเบียงเศรษฐกิจภาตตะวันออก (อีอีซี) และพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จึงต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศจีนนำนักลงทุนเอสเอ็มอีของจีนมาลงทุนในประเทศไทย
ขณะที่ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางเครือข่ายของ CLMV จึงได้มุ่งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อร่วมกับกลุ่มอาเซียนเชื่อมโยงการค้าการลงทุนกับจีน รวมทั้งมุ่งพัฒนาด้านดิจิทัลด้วยการสร้างผู้ประกอบการสตาร์ทอัพนับพันราย พัฒนาทั้งด้านการผลิต บริการ ท่องเที่ยว เพื่อร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านสร้างฐานใหม่ของเอเชีย จึงเรียกร้องให้เอสเอ็มอีไทยเร่งปรับตัวรองรับนโยบายของจีนและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ยอมรับว่าตั้งแต่เดินทางไปเยือนจีนช่วงที่ผ่านมาได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อจีนมองเห็นรัฐบาลเดินหน้าพัฒนาอีอีซีและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ ใช้เวลาเพียง 6 เดือน จึงได้นำนักลงทุนจีนและธนาคารแห่งประเทศจีนมาบุกตลาดไทยนับว่าเกิดความชัดเจนทางธุรกิจอย่างรวดเร็วเป็นรูปธรรม โดยเกิดจับคู่ธุรกิจครั้งใหญ่ระหว่างไทย-จีน ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ S-Curve เพื่อหนุนไทยพัฒนาด้านนวัตกรรมและนำพาประเทศไทยก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศจีนมีลูกค้าจากทั่วโลกเป็นลูกค้า การจับคู่ธุรกิจครั้งนี้จึงเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนร่วมกันของนักธุรกิจจากประเทศจีนกับนักธุรกิจไทย รวมทั้งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของทั้ง 2 ประเทศ การนำนักธุรกิจจจีนมาร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจกับนักธุรกิจไทย เพื่อเจรจาจับคู่รวมกว่า 1,000 ราย เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทย-จีน หวังช่วยเหลือเอสเอ็มอี และหวังชวนนักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในพื้นที่อีอีซี
สำหรับภายในงานได้ลงนามร่วมกับระหว่างธนาคารแห่งประเทศจีน สภาหอการค้าไทย-จีน และบีโอไอ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อร่วมกันส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย นับตั้งแต่ปี 2014 จีนเป็นประเทศคู่ค้าและตลาดนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย และปี 2016 จีนเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดลำดับที่ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 81 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 52,700 ล้านบาท นอกจากการมาจับคู่ธุรกิจและดูลู่ทางการลงทุนในไทยแล้ว บีโอไอยังจะนำคณะของธนาคารแห่งประเทศจีนไปเยี่ยมชมพื้นที่อีอีซีและรับฟังนโยบายส่งเสริมการลงทุน นักธุรกิจจีนส่วนใหญ่ให้ความสนใจต่อแผนการเตรียมพื้นที่การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ ของภาครัฐ.-สำนักข่าวไทย