ปรับแผนรักษาความปลอดภัยสถานประกอบการเมืองปัตตานี

ปัตตานี 18 พ.ค. – หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่บิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายต้องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย สถานประกอบการ ภาครัฐจึงได้ปรับแผนเพิ่มความเข้ม และรัดกุมมากยิ่งขึ้น


พนักงานรักษาความปลอดภัยห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาปัตตานี เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิดที่จะเข้าจอดภายในลานจอดรถ นอกจากจะตรวจสอบบัตรประจำตัวผู้ขับขี่แล้วยังเพิ่มตรวจบัตรประจำตัวผู้โดยสารทุกคนด้วย และตรวจสอบใต้ท้องรถอย่างละเอียดก่อนจะอนุญาตให้เข้าภายในลานจอดรถได้ พร้อมปรับการจราจรภายในไม่ให้รถยนต์ขับชิดอาคารได้ ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มโดยรอบ เตรียมพร้อมเปิดให้บริการในวันพรุ่งนี้ 

ขณะที่ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า จัดอบรมพนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานประกอบการ และกำลังภาคประชาชนในอำเภอเมืองปัตตานีกว่า 300 นาย สร้างความรู้ความเข้าใจในการเฝ้าระวังเหตุและสกัดกั้นแผนการก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยในการดูแลของทรัพย์สินและชีวิตประชาชนอย่างสูงสุดด้วย


การบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจและฝ่ายความมั่นคงในการติดตามสอบสวนคดีคาร์บอมบ์ห้างฯ บิ๊กซีปัตตานีเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลพบมีกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 15 ราย ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 12 ราย ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับอย่างรวดเร็ว 1 คน หลังเกิดเหตุเพียง 1 วัน ต่อมาศาลได้ออกหมายจับเพิ่มอีก 8 คน และล่าสุดฝ่ายความมั่นคงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร และออกหมาย พ.ร.ก.อีก 2 คน รวมทั้งหมด 11 คน ซึ่งฝ่ายความมั่นเปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัย 2 คนให้การรับสารภาพ จึงเตรียมทำแผนประกอบรับคำสารภาพเร็วๆ นี้ พร้อมเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายอื่นๆ ที่กำลังหลบหนี

ผู้ได้รับผลกระทบที่ทรัพย์สินและร้านค้าเสียหายจากเหตุระเบิดทั้งหมด 149 ราย ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากทางจังหวัดปัตตานีแล้วในเบื้องต้น 37 ราย รวมเงินช่วยเหลือเยียวยากว่า 40 ล้านบาท นางนฤมล ปิ่นทองพันธ์ หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบบอกว่า แม้จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา แต่ไม่อาจทดแทนทรัพย์สินและขวัญกำลังใจที่สูญเสียไปได้ แต่พร้อมเปิดร้านทำมาหากินอย่างสุจริตที่นี่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ห้างฯ บิ๊กซีปัตตานี ยืนยันพร้อมเปิดให้บริการได้ในวันนี้ โดยจะเปิดเฉพาะพื้นที่ที่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะปิดปรับปรุงให้เสร็จภายใน 1 เดือน. – สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ