ประจวบคีรีขันธ์ 17 พ.ค.- หนุ่มลูกจ้างบริษัททัวร์เสพยาบ้าปีนเข้าบ้านชาวต่างชาติขโมยรถจากภูเก็ต ซิ่งหนีด่านชุมพรเลียนแบบหนังดัง ตำรวจวิทยุสกัดจับกันวุ่น ยิงยางแตกยังไม่ยอมหยุด สุดท้ายจนมุมที่บางสะพาน ค้นประวัติพบหลายคดีติดตัว
เมื่อเวลา 08.00 น. (17 พ.ค.) พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งทางวิทยุให้สกัดจับรถยนต์ รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน 5 กข 7066 กทม. หลบหนีจากด่านตรวจบ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร และด่านตำรวจทางหลวง อ.บางสะพานน้อย ซึ่งเป็นรถถูกขโมยมาจาก จ.ภูเก็ต จึงนำกำลังตั้งจุดสกัดบริเวณป้อมบริการตำรวจทางหลวงบางสะพาน โดยใช้รถบรรทุกปิดกั้นบนถนนเพชรเกษมขาขึ้น เขตเทศบาลตำบลร่อนทอง เมื่อรถคันดังกล่าวแล่นมาถึงและเห็นเจ้าหน้าที่ จึงรีบกลับรถวิ่งสวนเลนหลบหนีเข้าไปทางสามแยกบางสะพาน ถนนเพชรเกษมเลียบชายทะเล เจ้าหน้าที่ได้นำรถสายตรวจหลายคันวิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ขณะที่รถผู้หลบหนีได้ใช้ความเร็วสูงจึงเฉี่ยวชนกับรถยนต์หลายคัน เจ้าหน้าที่จึง ตัดสินใจยิงใส่ล้อยาง เพื่อให้หยุดรถ เพราะเกรงว่าจะขับชนชาวบ้าน แต่รถคันดังกล่าวยังไม่ยอมจนมุนพยายามขับหนีทั้งที่ยางหลังแตก กระทั่งไปเสียหลักตกข้างทางในพื้นที่หมู่ 8 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน และเปิดประตูวิ่งหนีเข้าไปในซอยข้างปั้มน้ำมัน ก่อนกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในเขตชุมชน ทางตำรวจได้ระดมกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบปิดล้อมตรวจค้นบริเวณใกล้เคียงจนพบตัวผู้หลบหนีอยู่ใต้ถุนบ้านหลังหนึ่ง และคุมตัวมาที่ สภ.บางสะพาน ทราบชื่อ นายสุวิทย์ จันดาหาร อายุ 29 ปี ลูกจ้างบริษัททัวร์นำเที่ยวแห่งหนึ่ง ภายในรถพบอาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ กระสุน 3 นัด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะคนขับ
เบื้องต้นนายสุวิทย์ สารภาพว่า ได้เข้าไปในบ้านพักของชาวต่างชาติที่ จ.ภูเก็ต เพื่อลักทรัพย์ แต่ไม่พบทรัพย์สินมีค่า จึงขโมยรถคันดังกล่าวเพื่อใช้เป็นพาหนะ เพื่อนำปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของเพื่อนซ่อมที่ กทม.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุวิทย์ ไปตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกาย และพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ทำให้นายสุวิทย์ ยอมรับว่าเสพยาบ้ามาก่อนลงมือขโมยทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติพบว่ามีคดีวิ่งราวทรัพย์ 2 คดี ลักทรัพย์ 6 คดี ยาเสพติด 1 คดีและหนีทหาร 1 คดี ตั้งแต่ปี 2549 – 2553 ในท้องที่ อ.เมือง จ. อุดรธานี
พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.บางสะพาน กล่าวว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 6 ข้อกล่าวหาประกอบด้วยข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่1 (ยาบ้า)ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ขับรถประมาทเฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหายและไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย