ปทุมธานี 15 พ.ค.-หนุ่มเหยื่อกรณีเมียหลวงขับไล่ชนเบนซ์สามีจนบาดเจ็บเผยนาทีระทึก บอกยังไร้เงาคู่กรณี
จากเหตุการณ์ที่ น.ส.อทิชา ขับรถฟอร์จูนเนอร์ไล่ชนนายอัครพนธ์ สามีซึ่งขับรถเบนซ์มากับ น.ส.อร จนมีรถเสียหายรวม 5 คัน เบื้องต้นตำรวจแจ้งว่า น.ส.อร ได้รับบาดเจ็บแขนขวาหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 พ.ค. นายพีรพงศ์ บุญช่วย อายุ 39 ปี นักศึกษาปริญญาเอก และเป็นนักวิจัยของอุทยานแห่งชาติวิทยาศาสตร์ (สวทช.) ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 ห้องที่ 3205 ซึ่งเป็น 1 ในผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ไล่ชนดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน ได้ไปทำธุระที่จังหวัดนครนายก และกำลังจะกลับที่พักย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต
นายพีรพงศ์ กล่าวว่า ตนเองนั่งอยู่ทางด้านหลังข้างซ้าย เหตุการณ์วันนั้นเร็วมาก เมื่อรถโดนชนรีบออกจากรถแล้วมีเลือดออกทางศีรษะเป็นจำนวนมาก วันนั้นทุกคนที่อยู่ในรถได้รับบาดเจ็บกันทั้งหมด แต่ที่หนักสุดก็คือตนเอง และไม่เห็นวินาทีตอนที่รถฟอร์จูนเนอร์พุ่งชน และก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะวันนั้นมีฝนตกลงมาแล้วรถติดด้วย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากเกิดเหตุก็ยังไม่มีคู่กรณีเข้ามาดูแล หรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ส่วนเรื่องของคดีนั้นอยากให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วน น.ส.สุคนธ์ การะสังข์ อายุ 24 ปี เจ้าของรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อเวนซ่า ทะเบียน กง 797 ชุมพร กล่าวว่า วันนั้นตนเองได้ขับรถมาทางเลนซ้ายสุด และขับรถด้วยความเร็วปกติ พอมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถฟอร์จูนเนอร์พุ่งเข้ามาชนรถตนเอง ซึ่งรถฟอร์จูนเนอร์ขับข้ามสะพานมาชนกับรถของตนเอง ซึ่งตนเองก็ทำอะไรไม่ถูก และก็ไม่เห็นคันรถเบนซ์ แต่เห็นว่ารถฟอร์จูนเนอร์ได้พุ่งเข้ามาชนรถของตนเองที่ด้านหน้ามุมซ้ายและรถก็ได้เบี่ยงไปอยู่ตรงกลาง
น.ส.สุคนธ์ กล่าวว่า หลังจากที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เห็นสาวคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ใส่เสื้อสีดำ ยืนโวยวายอยู่ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ออกตัวว่าเป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ และยอมรับผิดทุกอย่าง แต่จนถึงขณะนี้ เจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์หรือประกันภัยยังไม่มีการติดต่อกลับมาหา และได้ไปให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี กล่าวว่ากรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีคู่กรณีทั้งหมด 5 คันได้สอบปากคำผู้ที่ขับรถเบนซ์แล้วและผู้ที่ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอแวนซ่า ซึ่งขณะนี้สอบคนขับรถทั้งหมดไปแล้ว 3 คันแล้วเมื่อช่วงเช้า ได้ให้ถามพนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำคนเจ็บที่อยู่โรงพยาบาลเปาโลรังสิต ส่วนรถฮอนด้าที่มีกล้องวงจรปิดหน้ารถถามพนักงานสอบสวนก็ได้นัดให้มาสอบปากคำ เพิ่มเติมเช่นกันส่วนรถโตโยต้าอแวนซ่านั้นได้ทราบว่า มีผู้โดยสารพร้อมคนขับนั่งมาด้วยกัน 5 คน แล้ววันนี้ได้มาสอบปากคำแล้ว 2 คนส่วนอีก 2 คนนั้นยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต 2 ส่วนผู้หญิงที่ขับรถ Toyota Fortuner นั้น ถามพนักงานสอบสวนได้นัดมาสอบปากคำเช่นกัน แต่ก็ยังไม่เข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด เพื่อให้รู้รายละเอียดว่าในวันเกิดเหตุนั้นเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง ส่วนเรื่องการประกันภัยนั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบและยังไม่ได้คุยกับทางประกันภัย ว่าจะชดใช้ให้ขนาดไหน แต่ว่าทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุก็มีทุนประกันภัยกันอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเมอร์เซเดสเบนซ์สีขาว ให้การว่าวันเกิดเหตุภรรยาตนเอง ซึ่งขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ได้เข้าใจผิดว่าตนเองมากับสาวอื่น จึงเกิดบันดาลโทสะขึ้น แต่จริงๆ แล้วหญิงสาวที่นั่งมาเบาะข้างซ้ายคู่หน้าคนขับนั้นเป็นเพียงลูกน้องสาวที่เพิ่งรับกันไปกินข้าวมา และก็ยังไม่ทราบด้วยว่าภรรยาแอบติดจีพีเอสไว้ในรถบริเวณใด
ส่วนข้อหาเบื้องต้นนั้น ยังอยู่ในการรวบรวมพยานหลักฐานว่าการกระทำอย่างนี้เกิดจากความประมาท หรือเกิดจาก การเจตนาที่จะขับรถไล่ชนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยากจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้แน่ชัดก่อน ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด แต่ในส่วนของการขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยนั้นก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน ส่วนคดีนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดหลายราย บางส่วนก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วและบางส่วนก็ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะได้นัดสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ออกจากโรงพยาบาล อีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย