ตลาดทุน-ตลาดเงินจับตารอดูผลเลือกตั้งสหรัฐ

 


 

กรุงเทพฯ 5 พ.ย.-ตลาดทุนตลาดเงินจับตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ คาดเงินบาทที่ 34.80-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,475  และ 1,455 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,500 และ 1,515 จุด ตามลำดับ


 

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รานงานว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาทยอยแข็งค่า ท่ามกลางแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จากประเด็นความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่ง ณ ขณะนี้ นางฮิลลารี คลินตัน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ ยังมีคะแนนที่ใกล้เคียงกันมาก นอกจากนี้ ทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ก็เป็นปัจจัยบวกที่หนุนค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน

สำหรับในวันศุกร์ (4 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.96 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (28 ต.ค.


set pic

ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง หลังนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,485.70 จุด ลดลง 0.58% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 0.50% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 50,030.72 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 579.58 จุด เพิ่มขึ้น 0.63% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นของสัปดาห์ นำโดยหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ราคายังปรับขึ้นช้า ขณะที่กลุ่มรับเหมาได้รับอานิสงส์จากการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง  อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กระแสนิยมนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับดีขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน

 

สัปดาห์ถัดไป (7-11 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.80-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,475  และ 1,455 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,500 และ 1,515 จุด ตามลำดับ โดยจุดสนใจทั่วโลกอยู่ที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนต.ค. ของจีน ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญมีเพียงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ช่วงต้น) เดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย. สำหรับปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ตอบรับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ-สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

สั่งปิดกิจการโรงงานลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนบุรี มามหาชัย จ.สมุทรสาคร พบเป็นเครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ ขยายผลตามจับจนเจอขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งปิดกิจการทันที

ข่าวแนะนำ

อธิการบดี ม.สยาม ยันไม่เกี่ยวข้องคอร์สอบรมอาสาตำรวจ

อธิการบดี ม.สยาม แถลงโต้ หลังตกเป็นข่าวมีคอร์สอบรมอาสาตำรวจคนจีนในมหาวิทยาลัย ลั่นมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมดำเนินคดีกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบนายกฯ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าพบนายกรัฐมนตรี ยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันภัยจาก online scams

“เม้งการยาง” ยันไม่ทราบขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น

“เม้งการยาง” พบตำรวจไซเบอร์ เผยไม่ทราบว่าขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น หลังถ่ายรายการยังให้เงินน้องไป 2,000 บาท ด้าน “เมลาย รัชดา” เผยจะเลิกคอนเทนต์ขยะ และเลิกจัดทริปน้ำไม่อาบ

“ภูมิธรรม” ขอไม่ลงรายละเอียด ช่วย 4 ลูกเรือประมงไทย

“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม เผยปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย ต้องรอจบกระบวนการ ย้ำรัฐบาล-กต.ประสานอยู่ตลอด แต่ขอไม่ลงรายละเอียด เพราะอาจกระทบการเจรจา