กรุงเทพฯ15 พ.ค.- ตำรวจเตือนภัยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แนะอัพเดต Microsoft Windows ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อป้องกันการใช้ช่องโหว่ของระบบ ในไทยได้รับผลกระทบแล้ว 2-3 ราย
พลตำรวจตรีศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการสนับสนุน สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ สทส . กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงดิจิทอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีการแจ้งเตือนให้ระมัดระวังไวรัสมัลแวร์ ซึ่งมีการโจมตีระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของสถาบันและหน่วยงานต่างๆมาแล้วทั่วโลกว่า มีการตรวจสอบพบตั้งแต่วันที่10 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบการแพร่กระจายในเครือข่ายเน็ทเวิร์ค ซึ่งแพร่ในระบบปฏิบัติการวินโดว์ ทั่วโลกว่า 100 ประเทศแล้ว โดยผู้ที่ติดไวรัสมัลแวร์ จะถูกเรียกค่าไถ่ และเข้าไฟล์ข้อมูลไม่ได้ หากต้องการเข้าถึงรหัสข้อมูลต้องจ่ายเงิน โดย 3 วันแรกต้องจ่ายเงินจำนวน 300 เหรียญ ครบ 6 วัน 600 เหรียญ และหากเกิน 7 วัน ผู้ที่โดนไวรัสมัลแวร์จะเข้าถึงข้อมูลของตัวเองไม่ได้ แต่หากต้องการให้ใช้งานได้ตามปกติ ต้องติดต่อจ่ายเงินในระบบบิทคอยน์เท่านั้น
ทั้งนี้วิธีการป้องกันไวรัส มีแนวทางคือผู้ที่ใช้บริการทั่วไปนั้น ให้อัพเดตระบบ windows ให้ทันสมัย ซึ่งทางผู้ให้บริการไมโครซอฟได้พัฒนาโปรแกรมให้ดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ หรือหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ thaicert.or.th ส่วนผู้ดูแลระบบ ต้องมีการอัพเดทซอฟแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่น 2003-2008 แต่หากไม่มั่นใจก็ให้ยุติพอร์ต (ช่องสัญญาณ) นั้นทันที และสามารถลงวินโดว์ใหม่ ทั้งนี้แนะนำไม่ต้องให้จ่ายเงินผ่านระบบให้คนร้าย ส่วนใครที่ได้รับผลกระทบ ขอให้รวบรวมหลักฐานไปร้องทุกข์เอาผิดที่ ปอท. ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มพบมีการแพร่ระบาดไวรัสมัลแวร์ แล้ว 2-3 ราย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ
ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ตำรวจสากลได้แจ้งเตือนตำรวจสากลของไทยเรื่องแผนประทุษกรรมของไวรัสมัลแวร์ และให้มีการเฝ้าระวัง ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับและสั่งเฝ้าระวังข้อมูล ยืนยันระบบความมั่นคงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย