คุม 1 ผู้ต้องสงสัยชี้จุดประกอบคาร์บอมบ์บิ๊กซี ปัตตานี

ปัตตานี 13 พ.ค.-ความคืบหน้าการไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ บิ๊กซี ปัตตานี ล่าสุดตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยที่อ้างตัวว่าเป็นผู้วางแผน และสั่งการไปชี้จุดที่นำรถกระบะไปประกอบระเบิด ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงสรุปข้อมูลพบเครือข่ายก่อเหตุรวม 15 คน ทราบตัวแล้ว 12 คน และควบคุมตัวได้แล้ว 2 คน


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 43 เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านร้างในตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี หลังผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้ให้การว่าเป็นที่นำรถกระบะที่ชิงมาจากนายนุสน ขจรคำ มาประกอบระเบิด ก่อนนำไประเบิดห้างบิ๊กซี จากการตรวจค้นพบวัยรุ่น 4 คนอยู่ภายในบ้าน จึงได้แยกสอบทีละคนปรากฎว่า 1 ใน 4 เป็นเจ้าของบ้าน โดยให้การว่าวันเกิดเหตุไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้าน แต่รู้ว่ามีรถกระบะมาจอดและไม่ทราบว่าจอดทำอะไร จึงควบคุมตัวทั้ง 4 คนเข้าสู่กระบวนการซักถามเพื่อขยายผลที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร หลังจากได้นำตัว 1 ในผู้ต้องสงสัยที่รับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนและสั่งการมาชี้จุดประกอบระเบิด ก่อนส่งมอบรถให้มือระเบิดทั้ง 4 คนขับไปยังห้างบิ๊กซี ซึ่งการเก็บหลักฐานในวันนี้จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ


ก่อนหน้านั้นแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยยืนยันว่าสามารถขยายผลทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 12 คน จากทั้งหมด 15 คน ควบคุมตัวได้ 2 คน ทราบชื่อนายสุฮัยมี สมาแอ และนายสะมะแอ มามะ โดยกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานและออกหมายจับทั้งหมดได้ไม่เกิน 4-5 วัน หลังจากนี้ ซึ่งในคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 1 คน ก็คือนายมะกอเซ็ง หม้าแอ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 มือระเบิดที่ขับรถกระบะไปจอดหน้าบิ๊กซี แต่ยอมรับว่าผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่งเคยเข้าโครงการพาคนกลับบ้านมาแล้ว จึงสั่งเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด


ด้านพลเอกอักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ภาคสังคมแยกเหตุรุนแรงกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯออกจากกัน เพราะกลุ่มก่อเหตุรุนแรงเป็นพวกสุดโต่ง ยืนยันการพูดคุยยังคงเดินหน้าต่อไปและคืบหน้าไปมาก พร้อมย้ำจะไม่ยกเลิกการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยใน 5 อำเภอ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในสัปดาห์หน้าจะเชิญนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม มาพูดคุยเกี่ยวกับการวางแนวทางปฎิบัติ ในพื้นที่ปลอดภัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง