ผู้ค้าเพชรบุรีล้อมโรงพักไม่พอใจให้รื้อแผง

เพชรบุรี 13 พ.ค.-เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงประมาณ 21.00 น. กลุ่มคาราวานสินค้ากว่า 100 คน นำโดยนายชูเกียรติ เลิศหิรัญทรัพย์ อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพฯ ออแกไนซ์จัดคาราวานสินค้าบุกล้อมสภ. เมืองเพชรบุรี หลังบางร้านถูกจับปรับฐานตั้งร้านขายสินค้าบนผิวจราจร และกดดันให้เปิดขายทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต ภายในงานจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าวิสาหกิจชุมชนและของดีเมืองเพชรบุรี ที่ตั้งร้านค้าบนฟุตบาทและบนถนนคีรีรัฐยา ต.ธงชัย อ.เมืองเพชรบุรี ทั้งหมดเข้าร้องขอความเป็นธรรม อ้างเดือดร้อนจากที่ตำรวจให้หยุดจำหน่ายสินค้าและรื้อถอนเต็นท์ในงานดังกล่าว


พ.ต.อ.ศิลปชัย มีช่วย ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนปศุสัตว์เพชรบุรี ร่วมกับจังหวัดเพชรบุรี และเกษตรจังหวัดเพชรบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าวิสาหกิจชุมชนและของดีเมืองเพชรบุรีขึ้นระหว่าง10-18 พ.ค. โดยขออนุญาตจังหวัดจัดงานบริเวณสนามตรงข้ามโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เอกชนพร้อมทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ขอกำลังตำรวจดูแลและอำนวยความสะดวกมาที่ตน แต่ปรากฏว่าวันที่ 7-8 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะผู้จัดงานได้ให้นายชูเกียรติ ซึ่งเป็นออแกไนซ์รับจัดงาน ตั้งเต็นท์จำหน่ายสินค้าบนฟุตบาทและล้ำลงบนพื้นผิวจราจรถนนคีรีรัฐยาเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ต่อมา 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่าเป็นการตั้งเต็นท์โดยไม่ได้ขออนุญาตและไม่เป็นไปตามหนังสือขอความอนุเคราะห์ จึงทำหนังสือแจ้งไปยังผู้จัดงานคือนายบันเทิง นวมภัคดี ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนฯ และนายวันชัย คนงาม เกษตรจังหวัดเพชรบุรี ว่าเป็นการทำผิดกฏหมายวางสิ่งของและขายสินค้าบนพื้นผิวจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้แจ้งผู้ประกอบการรื้อถอนทันที 


แต่ปรากฏว่าวันที่ 10 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเปิดงาน กลับไม่มีการรื้อถอนเต็นท์ จึงทำใบประกาศแจ้งไปยังผู้ค้าให้หยุดจำหน่ายสินค้าและแจ้งให้ออกจากผิวถนน ต่อมาวันที่ 11 พ.ค.เชิญผู้จัดงานทั้ง 2 คน มารับทราบข้อกล่าวหา และปรับ 5,000 บาท พร้อมให้แจ้งผู้ประกอบการรื้อถอนเต็นท์ หลังจากนั้นผู้ค้าบางรายยอมเก็บเต็นท์ย้ายสินค้ากลับ แต่ยังมีอีกจำนวนหนึ่งไม่รื้อเต็นท์และเปิดขายปกติ โดยอ้างว่ามีตัวแทนผู้จัดงานไปบอกว่าสามารถเปิดจำหน่ายสินค้าได้ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค.ตำรวจจึงเข้าจับกุมและเปรียบเทียบปรับ พร้อมประสานการไฟฟ้าตัดไฟ ส่งผลให้กลุ่มแม่ค้าพ่อค้าไม่พอใจและมารวมตัวชุมนุมและเริ่มทวีความรุนแรง มีการด่าทอเจ้าหน้าที่ แม้ตำรวจจะชี้แจงว่าดำเนินการไปตามกฎหมาย กระทั่งพ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล และพ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ลงพื้นที่รุดตรวจสอบและเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ค้าเข้าไปชี้แจง ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงเข้าใจว่าคณะผู้จัดงานไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ถนน 


นายชูเกียรติ ออแกไนซ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์บอกเพียงสั้นๆว่า เสียหายกว่า 1 ล้านบาท และเข็ดกับการดำเนินงานของผู้จัดงานที่จ้างตนมาจัดคาราวานสินค้า โดยตลอดระยะเวลาที่มีการชุมนุม ทุกฝ่ายได้พยายามติดต่อนายบันเทิง และนายวันชัย เพื่อให้มาชี้แจงและรับผิดชอบแต่ปรากฏทั้ง 2 คนปิดโทรศัพท์ ไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบความเดือดร้อนของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ลงทุนค่าใช้จ่ายขนย้ายสินค้า และลงทุนวัตถุดิบสินค้าประเภทอาหาร จึงผ่อนผันให้เปิดร้านจำหน่ายสินค้าได้ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ (13-14 พ.ค.) และให้เก็บร้านรื้อเต็นท์และขนย้ายสินค้าทันทีในช่วงเย็น เนื่องจากวันจันทร์ที่ 15 พ.ค.โรงเรียนเบญจมฯจะเปิดภาคเรียน และถนนสายนี้ยังเป็นเส้นทางไป-มาโรงพยาบาลพระจอมเกล้าอีกด้วย  ทำให้พ่อค้าแม่ค้าพอใจและแยกย้ายในเวลา 23.30 น.

นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนการจัดงานได้มีชาวบ้านในพื้นที่ที่เดือดร้อนจากการตั้งเต็นท์คาราวานสินค้าจนทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ได้ร้องเรียนไปยัง สภ.เมืองเพชรบุรี ทำให้ประชาชนและผู้เจ็บป่วยที่ต้องใช้เส้นทางเข้า-ออก รพ.พระจอมเกล้า ตลอดจนนักเรียนที่กำลังจะเปิดเรียนในวันจันทร์นี้ต้องเดือดร้อน ประกอบกับรถรับส่งนักเรียนจำนวนมากที่จะจอดรถรับส่งนักเรียนจะไม่สามารถจอดรถไม่ได้ รวมทั้งร้านค้าสองข้างทางก็ไม่สามารถเปิดขายของได้ เพราะถูกคาราวานสินค้าตั้งบังร้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]