ทำเนียบฯ 3 พ.ค.- ที่ประชุม กนช. มอบก.เกษตรฯ มหาดไทย ทรัพยากรธรรมชาติฯ แก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เร่งรัดจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการข้อมูลน้ำ ป่า และที่ดิน ให้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีนายกฯ เป็นประธาน
นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ เลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1/2560 ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมกันแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ให้ทบทวน แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั่วประเทศ
เลขาฯ กนช. กล่าวว่า จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงการประกันภัยทางการเกษตร การสร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้กับภาคประชาชนเกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และการจัดหาแหล่งน้ำดิบในพื้นที่ที่ขาดแคลน รวมถึงการเร่งรัดจัดหาประปาหมู่บ้านให้ครบทุกหมู่บ้านให้เป็นไปตามแผนด้วยความรวดเร็ว เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการข้อมูลน้ำ ป่า และที่ดิน โดยให้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
นายวรศาสน์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ที่ประชุมเห็นชอบโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำโดยความร่วมมือของกองทัพบกร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ จำนวน 22 โครงการ ในพื้นที่ 15จังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก การกระจายน้ำให้กับพื้นที่การเกษตร ประมาณ 2,600 ไร่ มีน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3.57 ล้านลูกบาศก์เมตร
เลขาฯ กนช. กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำแผนพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา และหนองหาน จังหวัดสกลนคร ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับกรมทรัพยากรน้ำและกรมชลประทานให้ทบทวนการใช้ประโยชน์จากน้ำในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ สตึงนัม ซึ่งมีศักยภาพสามารถนำน้ำมาใช้ได้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รองรับการพัฒนาได้ไม่น้อยกว่า 400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี นอกจากนี้ยังให้กรมทรัพยากรน้ำเป็นเจ้าภาพในการหารือเพื่อเร่งรัดการทบทวนและปรับปรุงซ่อมแซมแหล่งน้ำตามภารกิจถ่ายโอนที่ได้มอบให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้วประมาณ1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำที่ได้พัฒนาขึ้นอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนต่อไป
นายวรศาสน์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการกลั่นกรองแผนงานบูรณาการการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบครบวงจร โดยให้พิจารณาในแต่ละแผนที่ (Area base) ควบคู่กับการพิจารณาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี นอกจากนี้กนช.ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำชุดข้อมูลสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชนในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ ผ่านสื่อต่าง ๆ แบ่งเป็น 4 หมวดหลัก ได้แก่ การกักเก็บน้ำ ระบบส่งน้ำ และระบบการระบายน้ำในแต่ละสภาพภูมิประเทศ ข้อมูลสถานการณ์น้ำ จำแนกเป็นรายภูมิภาคและความเชื่อมโยงในการใช้น้ำร่วมกัน การดำเนินการของรัฐบาลทั้งที่เป็นมาตรการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยจำแนกเป็นปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และมาตรการระยะยาวที่มีความยั่งยืน ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหากไม่มีการแก้ไขการบริหารจัดการน้ำ .- สำนักข่าวไทย