ส.แบงก์-ส.โทรคมนาคมจับมือยกระดับความปลอดภัยบริการผ่านมือถือ

ธปท. 2 พ.ค. – สมาคมโทรคมนาคมจับมือสมาคมธนาคารไทยเชื่อมโยงระบบการพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าโทรศัพท์มือถือ หวังอุดช่องโหว่จากมิจฉาชีพ 


สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมธนาคารไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการยกระดับความปลอดภัยในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเริ่มต้นที่โครงการระบบรับและโอนเงินพร้อมเพย์ เพื่อผลักดันให้ทำธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย อุดช่องโหว่จากมิจฉาชีพ  คาดว่าจะเริ่มใช้ภายใน 3 เดือนนี้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.)  กล่าวว่า การลงนามวันนี้ เพื่อเป็นการยกระดับกระบวนการพิสูจน์ตัวตนของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับของธนาคารพาณิชย์ให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกัน เช่น กำหนดให้การขอเปิดหรือเปลี่ยนแปลงซิมการ์ดต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริง และดำเนินการเฉพาะที่ศูนย์บริการเท่านั้น เพื่อช่วยป้องกันการทุจริต และต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เมื่อข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนหรือออกซิมการ์ดใหม่ ผู้ให้บริการต้องแจ้งให้ธนาคารพาณิชย์รับทราบ เพื่อติดต่อและยืนยันความถูกต้องกับผู้ใช้บริการ ทำให้ช่วยดูแลคุ้มครองผู้ใช้บริการได้ทันท่วงทีและหากเกิดปัญหาสามารถติดตามแก้ไขได้รวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น โดยจะเริ่มจากรับ-โอนเงินพร้อมเพย์ก่อน จากนั้นจะขยายสู่ธุรกรรมโมบายแบงก์กิ้งต่อไป 


นายวิรไท กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนลงทะเบียนพร้อมเพย์ 27 ล้านบัญชี และเป็นการลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 6 ล้านเลขหมาย โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการพร้อมเพย์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 4.3 ล้านรายการ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยปริมาณธุรกรรมการโอนจะคึกคักช่วงปลายเดือนประมาณ 100,000 รายการต่อวัน ขณะที่นิติบุคคลลงทะเบียนพร้อมเพย์แล้ว 28,500 ราย นับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนการใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งสิ้นปี 2559 มีผู้ใช้ 21 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 หากเทียบกับสิ้นปี 2558 และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ภายหลังการลงนามครั้งนี้ทั้ง 2 อุตสาหกรรมจะร่วมมือตรวจสอบความถูกต้องเรื่องการพิสูจน์ตัวตนมากขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ และ โอกาสความผิดพลาดจะน้อยลงและสามารถอุดช่องโหว่ที่เคยเกิดขึ้นได้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.ได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายความมั่นคงให้มีการพิสูจน์ตัวตนและลงทะเบียนซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา  คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ปีเศษ หลังจากการลงทะเบียนครบแล้วผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่ไม่ได้ลงทะเบียนพิสูจน์ตัวตนจะไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยด้านความมั่นคงของประเทศ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร