สมุทรสาครโมเดล นำร่องจัดระเบียบที่พักแรงงานข้ามชาติ

สมุทรสาคร 1 พ.ค. – สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีแรงงามข้ามชาติ โดยเฉพาะชาวพม่า เข้ามาทำงานจำนวนมากที่สุดอันดับหนึ่งของประเทศ โดยที่ผ่านมาประสบปัญหาความหนาแน่นของที่พัก ซึ่งกระจุกตัวอยู่กันมากในอำเภอเมือง ทำให้เมื่อ 6 ปีก่อน จังหวัดจึงร่วมกับเอกชนใช้อาคารบ้านเอื้ออาทรที่ว่างเปล่าของการเคหะแห่งชาติ ให้เจ้าของโรงงานนำแรงงานมาเช่าอยู่ซึ่งประสบความสำเร็จ กระทรวงแรงงานจึงใช้สมุทรสาครโมเดล นำร่องโซนนิ่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ในอีก 13 จังหวัดด้วย


โมดูซา แรงงานพม่าและครอบครัว อาศัยอยู่ในโครงการบ้านเอื้ออาทรท่าจีน อ.เมือง สมุทรสาคร มากว่า 5 ปีแล้ว ห้องพักขนาด 33 ตารางเมตร มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ค่าเช่าเดือนละ 1,800 บาท เป็นราคาที่ยอมรับได้ 

ส่วนแรงงานพม่าคนนี้ ทำในโรงงานผลิตอาหารเสริม นายจ้างเป็นผู้ติดต่อเช่าห้องให้เธอ แล้วหักจากบัญชีเงินเดือน


ที่พัก 27 อาคาร แต่ละตึกมี 48 ห้อง แรงงานข้ามชาติสับเปลี่ยนเข้าพัก การมีห้องพักเป็นสัดส่วน ไม่ได้เช่าอยู่อย่างแออัด เริ่มเป็นที่นิยม ที่นี่มี รปภ. มีคลินิค และพบเห็นวิถีชีวิตพม่าผ่านวัฒนธรรมท้องถิ่น

การจัดระเบียบเป็นโซนนิ่ง เช่น โครงการที่ท่าจีนนี้ มีจุดเริ่มต้นจากการนำบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2554 ทั้งหมด 56 อาคาร แต่มีคนไทยมาซื้ออยู่อาศัยเพียง 11 อาคาร เหลืออาคารเปล่าอยู่ 45 อาคาร จังหวัดร่วมกับการเคหะ ผู้ประกอบการ จึงใช้วิธีเช่าไว้เป็นที่พักแรงงานข้ามชาติ ปัจจุบันมีแรงงานของโรงงานกว่า 100 แห่งเข้าพัก

สมุทรสาครมีแรงงานข้ามชาติที่มีใบอนุญาตทำงานราว 300,000 คน กว่าร้อยละ 90 เป็นชาวพม่า แต่ที่มีอยู่จริงสูงกว่านี้หลายเท่า อาศัยอยู่อย่างแออัดใน 3 ตำบลของอำเภอเมือง บางชุมชนอยู่นับหมื่นคน ก่อปัญหาหลายด้าน เช่น สุขอนามัย และอาชญากรรม


แรงงานจังหวัดบอกว่า การโซนนิ่งที่พักโดยให้แรงงานข้ามชาติเช่าห้องโครงการเอื้ออาทร สมุทรสาครถือเป็นโมเดลนำร่องจังหวัดแรก ล่าสุด กำลังพิจารณาปรับปรุงที่พักที่บ้านเอื้ออาทร 2 เลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ที่มีอีก 18 อาคาร รองรับได้อีกกว่า 3,000 คน 

กระทรวงแรงงานกำหนดให้สมุทรสาครและระนอง เป็นต้นแบบการจัดระเบียบที่พักแรงงานข้ามชาติให้เป็นที่ยอมรับตามหลักสากล ตั้งแต่การจ้างงาน คุณภาพชีวิต และค่าจ้างที่เป็นธรรม และขยายรูปแบบไปใน 13 จังหวัด เช่น ปทุมธานี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับแรงงานข้ามชาติอีกมากกว่า 50,000 คน และเป็นการดึงให้เข้าสู่ระบบมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย