fbpx

สธ.กำชับทุก รพ.เข้มมาตรการความปลอดภัยรถพยาบาล

สธ. 26 เม.ย.- สธ.กำชับโรงพยาบาลทุกแห่งเข้มมาตรการความปลอดภัยของรถพยาบาล ติดตั้ง CCTV, GPS, เข็มขัดนิรภัย ทำประกันภัย หากเกิดอุบัติเหตุให้มีการสอบสวนหาสาเหตุทุกกรณี หากกระทำผิดให้พิจารณาโทษตามระเบียบราชการ เผยสถิติในรอบ 6 เดือน ประสบเหตุ 24 ครั้ง 


  

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดแก้ไขปัญหาการบาดเจ็บจากจราจร ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ในส่วนของกระทรวงฯ มีบุคลากรส่วนหนึ่งที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากจราจรระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาลและความคุ้มครองอุบัติเหตุทางถนน โดยมีหนังสือสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการ ดังนี้ ติดตั้งระบบสัญญาณดาวเทียม (GPS) โดยเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถ ของกรมการขนส่งทางบก ในการควบคุมความเร็วแบบ Real Time ติดตั้งกล้อง CCTV ในรถพยาบาล เป็นการติดตามพฤติกรรมการขับรถและอาการของผู้ป่วย เพื่อช่วยเตรียมการรักษาแบบทันท่วงที พร้อมทั้งการทำประกันภัยรถพยาบาล ประเภท 1 กรณีเกิดอุบัติเหตุให้มีการคุ้มครองขั้นพื้นฐาน ขณะนี้มีรถพยาบาลในสังกัดติดตั้ง GPS แล้ว 879 คัน ซึ่งจะเร่งรัดให้ดำเนินการทั้งหมด                     


  

ปลัด สธ. กล่าวต่อไปว่า ในส่วนพนักงานขับรถพยาบาล ให้เข้าอบรมเพิ่มทักษะและประสบการณ์ทุกคน ก่อนปฏิบัติหน้าที่จะมีการตรวจแอลกอฮอล์จากลมหายใจต้องเป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง มีการตรวจสอบหาสารเสพติดปีละ 2 ครั้ง ทดสอบสุขภาพจิตปีละ 1 ครั้ง กรณีส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลที่มีระยะทางเกิน 400 กิโลเมตร ต้องมีคนขับ 2 คน ขับรถจำกัดความเร็วที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือไม่เกินที่กฎหมายกำหนด และถือปฏิบัติการขับขี่ปลอดภัย (Safety Driving) ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยและเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน

  


“ได้กำชับโรงพยาบาลทุกแห่งเข้มมาตรการความปลอดภัยของรถพยาบาล และมีหนังสือสั่งการไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง หากรถพยาบาลในสังกัดเกิดอุบัติเหตุ ให้มีการสอบสวนสาเหตุร่วมกับสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคทั้ง 12 เขต หากเป็นฝ่ายกระทำผิดให้มีการพิจารณาความผิดและกำหนดโทษและการลงโทษทางวินัยตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน และรายงานต่อผู้บริหารระดับสูงต่อไป เช่น กรณีรถพยาบาลโรงพยาบาลปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ประสบอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้ลงโทษผู้บริหารตามระเบียบของทางราชการ เนื่องจากไม่ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการติดตั้งระบบติดตามรถผ่านดาวเทียม การติดกล้องหน้ารถยนต์ และการทำประกันภัยเพิ่มความคุ้มครองขั้นพื้นฐาน” นพ.โสภณ กล่าว  

  

ทั้งนี้ ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาล จากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – เมษายน 2560 เกิดอุบัติเหตุ 24 ครั้ง สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากการชนคู่กรณี ถูกคู่กรณีชน ตกข้างทาง ชนต้นไม้ พลิกคว่ำ เป็นต้น มีผู้บาดเจ็บ 60 คน เป็นบุคลากรสาธารณสุข 33 คน ประชาชน 27 คน มีผู้เสียชีวิต 6 คน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด