พม.เตรียมไกล่เกลี่ยแย่งเด็กแฝด 7 ขวบ

กทม. 24 เม.ย.-พม.เตรียมตรวจสอบสวัสดิภาพเด็ก ไกล่เกลี่ยพ่อ-ยาย แย่งเด็กหญิงแฝด ยึดความสุขเด็กเป็นสำคัญ ด้านพ่อแจงติดต่อขอลูกคืนมาตลอด


หลังมีกระแสบนโลกโซเชี่ยลแชร์คลิปและเรื่องราวกรณีที่เกิดเหตุแย่ง ด.ญ.แฝด วัย 7 ปี อุ้มลากขึ้นรถออกจากอกยาย และป้า ที่เลี้ยงดูหลานสาวแฝดมานานกว่า 7 ปี หลังพ่อของเด็กนำทนายมาแสดงตัวขอรับไปดูแลต่อ แต่เด็กไม่อยากจะไปกลายเป็นเหตุยื้อยุดแย่งกัน ก่อนพ่อจะอุ้มลูกที่ร้องโวยวายขึ้นรถไป ทำให้ ป้า-ยาย ทำใจไม่ได้ และเป็นภาพที่สุดสะเทือนใจ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 1 ตำบลโคกหล่าม อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ พบกับป้า และยาย คือ นางสาวปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี และนางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี โดยทั้งสองเล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้น พ่อของเด็กหญิงแฝด ได้นำหลักฐานและทนายความมาขอรับลูกสาวแฝดไปเลี้ยงดูต่อที่บ้านพัก อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งตั้งแต่แม่ของเด็กหญิงแฝดเสียชีวิตไปเมื่อช่วงเดือน พฤษภาคม 2553 นับแต่ที่คลอด 2 เด็กหญิงแฝดได้ไม่กี่วัน นับเวลาแล้วก็เกือบ 8 ปี ผู้เป็นป้า และยาย ก็ได้นำตัวเด็กหญิงแฝดมาเลี้ยงดู แต่ในช่วงเวลานั้นทางพ่อของเด็กก็ไม่ได้มาช่วยดูแลเท่าไร มาก็นานๆ มาที ถ้ามาก็มาแค่วันสองวันแล้วก็กลับไป ส่งเงินมาช่วยดูแลนับได้เกือบ 8 ปี ส่งเงินมาช่วยก็แค่ไม่กี่หมื่นบาท ทำให้ 2 เด็กหญิงแฝด ไม่มีความผูกพันอะไรกับพ่อมากเท่าไร พอถึงเวลาพ่อมาแสดงตัวขอเอา 2 เด็กหญิงแฝดไปเลี้ยงดูทำให้ 2 เด็กหญิงแฝด ไม่อยากจะไป จนเป็นคลิปแชร์ออกไปดังกล่าว และเวลาต่อมาได้กลับมายื้อยุดแย่ง 2 เด็กหญิงแฝด ไปอย่างหน้าน่าสงสาร ทำให้ตอนนี้ป้ารู้สึกเป็นห่วงหลานมาก ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานเป็นยังไง นับจากวันนั้นก็ 3 วันแล้วข่าวของหลานก็ไม่ได้ยินข่าว ตอนนี้อย่างให้พ่อของ 2 เด็กหญิงแฝด มานั้งคุยกันดีๆว่าจะเอายังไง หลานเป็นยังไงบ้าง เบื้องต้นอยากจะฝากถึงท่าน นายกรัฐมนตรี ให้ลงมาช่วยแล อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กๆ เพราะเรื่องนี้เหตุการณ์มันไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย ห่วงความรู้สึกของหลานทั้งสองคนมากตอนนี้ และขอขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคน ทุกฝ่ายที่เข้ามาให้กำลังใจ และดูแลเรา


ต่อมาทางด้านนายอำเภอเมืองอุทุมพรพิสัย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ และจากยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้ามาพูดคุยดูแลให้ทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งด้าน นาย มานิตย์ แก้วโสพรม ยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าในส่วนของยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้ามาช่วยเหลือให้คำแนะนำในเรื่องขอกฎหมายกับทางครอบครัวนี้ ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาตอนนี้เรื่องสิทธิการดูแลก็คงเป็นทางพ่อที่มีสิทธิดูแล และเรื่องเป็นแบบนี้ก็ห่วงเรื่องความรู้สึกของตัวเด็ก ดังนั้นคิดว่าควรจะต้องให้ทางพ่อของเด็กมานั่งพูดคุยกัน และอย่างจะให้พ่อเอาตัวเด็กกลับมาให้ป้า และยาย บ้าง เพื่อทำให้เด็กเกิดความคุ้นเคยก่อน แล้วค่อยเอาไปอยู่อย่างถาวร ซึ่งไม่อยากใช้กฎหมายมาแก้ไขปัญหา เราอยากจะใช้กฎหมายมาแก้ไขปัญหาเป็นอย่างสุดท้าย


ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ที่บ้านเลขที่ 77/350 หมู่บ้านนันธิชา 2 หมู่ 10 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เป็นบ้านของนายสุรชัย พลอยไป พ่อของเด็กแฝด พบว่ายังคงปิดไฟ ปิดประตูหน้าต่างเงียบ หน้าบ้านมีรองเท้าจำนวนหลายคู่ พบรองเท้าเด็กสีฟ้าและสีเหลืองวางอยู่ด้านหน้าประตูบ้าน 

จากการสอบถาม น.ส.รัชนี ขวัญเมือง อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบว่าปกติบ้านหลังนี้จะอยู่กัน 3 คน คือตัวผู้ชายเจ้าของบ้าน แฟนสาวอายุประมาณ 20 ปีกว่า และเด็กหญิงอายุประมาณ 15 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวของฝ่ายชาย เช้าเวลาประมาณ 08.00 น.จะออกจากบ้านไปทำงานทั้ง 3 คนและจะกลับเข้าบ้านมาประมาณ 20.00-20.30 น.ไม่ค่อยพูดคุยกับใครกลับบ้านมาก็จะอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน เมื่อวานเห็นเด็กแฝดออกมาเล่นหน้าบ้าน เด็กก็ปกติไม่ร้องไห้งอแง บ้านนี้ปกติอยู่กัน 3 คนคือเจ้าของบ้าน แฟนและลูกอายุประมาณ 15-16 คน เพิ่งเห็นว่ามีเด็กแฝดมาอยู่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอ

ด้านฝั่งพ่อของเด็กแฝด ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้เช่นกันผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ระบุตั้งแต่แม่ของน้องเสียชีวิต พ่อก็พยายามขอลูกมาเลี้ยงเองตลอด แต่ทางยายก็ยื้อเพราะรักหลาน ห่วงหลาน จนเวลาล่วงเลยมาถึง 7 ปี ท้ายสุดพ่อเลยติดต่อทนายให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งทนายก็เห็นใจยาย แต่มองว่าเพื่ออนาคตทางการศึกษาของเด็ก การไปอยู่กับพ่อน่าจะดีกว่า ยายก็ขอเวลาเพิ่มอีก 7 เดือนให้น้องจบป.1 ทางฝ่ายพ่อก็ตกลง แต่เมื่อถึงเวลามารับตามนัด ทางยายยังอาลัย ส่วนหลานก็รักยาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย