รถโดยสาร-บรรทุกจดทะเบียน 1 ม.ค.61 ติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสง

กรุงเทพฯ  22 เม.ย. – กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้รถโดยสาร-รถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่ 1 ม.ค.61 ต้องติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงหรือแผ่นสะท้อนแสง เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ หากฝ่าฝืนปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท


นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้รถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุกติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงหรือแผ่นสะท้อนแสงที่มีคุณลักษณะ สี ขนาด และตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพการมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะเวลากลางคืน ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถหลีกเลี่ยงหรือหยุดรถระยะที่ปลอดภัย ลดโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับรถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุกทุกคันที่จดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป 

นายสนิท กล่าวว่า การติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงที่สามารถสังเกตเห็นเวลากลางคืนได้ในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ ด้านท้ายรถ ให้ติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงสีแดง ส่วนด้านข้างรถทั้ง 2 ข้าง ให้ใช้อุปกรณ์สะท้อนแสงสีเหลืองอำพัน นอกจากการติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงแล้ว สำหรับรถบรรทุกทุกลักษณะที่มีจำนวนเพลาล้อ กงล้อและยาง ตั้งแต่ 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 6 เส้นขึ้นไป (ยกเว้นรถลากจูง) ต้องติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงควบคู่กับอุปกรณ์สะท้อนแสงด้วย โดยวิธีการติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงและแผ่นสะท้อนแสงต้องเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล สำหรับรถโดยสารและรถบรรทุกที่จดทะเบียนก่อนวันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ กำหนดระยะเวลาให้ผู้ประกอบการขนส่งมีเวลาติดตั้งและปรับปรุงแผ่นสะท้อนแสงให้เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด 


สำหรับรถที่ยังไม่ติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงหรือติดตั้งแล้วแต่มีขนาดและตำแหน่งการติดตั้งไม่เป็นไปตามที่กำหนด ต้องแก้ไขให้เสร็จภายในวันที่ 1 มกราคม 2562 กรณีรถที่ติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงแล้ว โดยมีขนาดและตำแหน่งติดตั้งถูกต้อง แต่ใช้วัสดุหรือมีสีไม่เป็นไปตามกำหนดให้ระยะเวลาแก้ไขให้เรียบร้อยภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 สำหรับผู้ประกอบการฝ่าฝืนไม่ติดตั้งภายในระยะเวลาที่กำหนดมีความผิดตามพ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยกรมการขนส่งทางบกมีมาตรการในการกำกับดูแลอย่างเข้มข้นจริงจัง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายทันทีกรณีฝ่าฝืน และหากเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ประกอบการต้องมีส่วนรับผิดชอบทุกกรณี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้