“วิษณุ” ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือมาตรการลดอุบัติเหตุสงกรานต์

ทำเนียบฯ 21 เม.ย.-รองนายกฯ เผยประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้แต่ละหน่วยงานหามาตรการแก้ปัญหานั่งท้ายกระบะและแคปหลัง ยึดหลักปลอดภัยและสะดวก ไม่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่กดขี่หรือสร้างความลำบากใจให้เจ้าหน้าที่ คาดได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมสรรพสามิต กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และรับทราบรายงานจาก ปภ.ถึงมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2560 ว่า อุบัติเหตุในปีนี้ แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พบว่ามีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะ แต่ยังพบอุบัติเหตุจากรถยนต์ส่วนตัวและรถจักรยายนยนต์ โดยสาเหตุหลักคือเมาแล้วขับ แต่ไม่พบในกรณีที่บุคคลคาดเข็มขัดแล้วเสียชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงบาดเจ็บเท่านั้น

“การประชุมวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการนั่งท้ายรถกระบะและแคปหลัง โดยจะยังคำสั่ง คสช.เดิมที่ประกาศใช้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์อยู่ โดยในวันนี้ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปพิจารณาตามข้อเสนอถึงมาตรการที่แต่ละฝ่ายเสนอมา ซึ่งจะมีการประชุมหารือถึงการวางข้อกำหนดอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าหลังจากนี้หากรัฐบาลจะมีมาตรการใดออกมา จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของประชาชน หากเรื่องความปลอดภัยแต่ไม่สะดวก จะไม่ทำ แต่ก็จะไม่ปล่อยให้สะดวกจนลืมความปลอดภัย และเป็นภาระของประชาชนให้ถูกเจ้าหน้าที่กดขี่ รีดไถ และไม่สร้างความลำบากใจให้กับเจ้าหน้าที่ ขอยืนยันว่าจะไม่ใช้คำสั่งมาตรา 44  ทั้งนี้ได้ฝากการบ้านให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาถึงปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในยานพาหนะ และจังหวัดต่าง ๆ ว่าสถิติที่ได้มามีความถูกต้องอย่างไร” นายวิษณุ กล่าว


นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลรายงาน พบว่าอุบัติเหตุมาจากรถจักรยานยนต์  ถึงร้อยละ 50 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีทะเบียน อาจนำไปสู่ปัญหาการเรียกค่าเสียหายจากบริษัทประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และรถที่ไม่ทราบที่มาที่ไปอาจเป็นบ่อเกิดของเหตุอาชญากรรม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องหารือและตั้งศูนย์แก้ปัญหาสร้างความรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนต่อไป โดยอาจมีการตั้งศูนย์ตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในการใช้รถใช้ถนนได้อย่างถูกต้อง

“ทั้งนี้ สปท.ได้เสนอว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทห้างร้าน และองค์กรต่าง ๆ สักคนหนึ่ง ให้เป็นเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางถนน ซึ่งคน ๆ นี้จะคอยไปฝึกอบรมและมาถ่ายทอดต่อ เป็นคนดูแลเก็บสถิติ และเป็นหูเป็นตาแทนรัฐ ดูแลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งในต่างประเทศก็มี ประเทศไทยก็น่าจะมี โดย รอง ผบ.ตร.จะไปเสนอต่อบริษัทต่าง ๆ ให้มีการตั้ง คล้าย ๆ กับมิสเตอร์เซฟตี้ และกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ก็น่าจะมี ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับที่ดีว่าน่าจะมีการตั้งศูนย์ดังกล่าวเช่นกัน” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน