ทส.ยันขนย้ายสัตว์ทางฮ.ยังจำเป็น

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 20 เม.ย.-ปลัดทส. ส่งผลสอบข้อเท็จจริงกรณีหมีควายตก ฮ.ตาย ให้ฝ่ายวินัยพิจารณาหากพบเข้าข่ายทำผิดก็จะดำเนินการเด็ดขาด  ขณะเดียวกันได้ปรับระเบียบใช้ฮ.ให้รัดกุมขึ้น แต่ไม่ยกเลิกภารกิจขนย้ายสัตว์ 


นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับรายงานผลสอบข้อเท็จจริงผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีหมีควายตกเฮลิคอปเตอร์ตาย ระหว่างภารกิจนำกลับไปปล่อยในป่าเขาใหญ่แล้ว เบื้องต้นยืนยันว่า สาเหตุที่หมีควายตกจากเฮลิคอปเตอร์เป็นการตัดสินใจของนักบินที่จำเป็นต้องสละหมีเพื่อรักษาเฮลิคอปเตอร์ไว้  เนื่อง  จากสภาพอากาศไม่ดี มีแรงลมปะทะ จากหน้าผา มาปะทะตัวเครื่องทำให้เครื่องสั่นและมีการเตือนเกิดขึ้น ซึ่งนักบินได้พยายามประคองเครื่องให้ได้ แต่เนื่องจากแรงลมปะทะหนักมาก จึงต้องตัดสินใจปล่อยหมีทิ้งออกไป ซึ่งนักบินที่ทำการบินในวันนั้นเป็นนักบินที่มีประสบการณ์สูงและปฏิบัติภารกิจมานาน  

ส่วนเรื่องน้ำหนักบรรทุกหรือน้ำหนักของหมีควาย ไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้นักบินต้องทิ้งหมี เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ สามารถรับน้ำหนักรวมผู้ โดยสาร นักบินช่างเครื่อง และน้ำมันเชื้อเพลิงได้ประมาณ 2000 กว่ากิโล กรัม ทั้งยังสามารถรับน้ำหนักนอกเครื่องหรือสำหรับการบรรทุกได้อีกถึง 907 กิโลกรัม ซึ่งหมีควายที่ลำเลียงไปมีน้ำหนักเพียง 90 กิโลกรัมเท่านั้น และเครื่องบินลำนี้ยังเคยปฏิบัติภารกิจในการลำเลียงน้ำช่วยดับไฟป่ามาตลอด ซึ่งต้องบรรทุกน้ำในปริมาณมากกว่าน้ำหนักมีควายหลายเท่า ส่วน ผู้โดยสารที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ได้รับรายงานเบื้องต้นมีทั้งหมด 5 ราย เป็น นักบิน 1 ช่างเครื่อง 1 ส่วนที่เหลือจะต้องตรวจสอบต่อไปว่าเป็นใครบ้าง และมีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจหรือไม่ 


ส่วนกรณีการขออนุมัติใช้เฮลิคอปเตอร์ในภารกิจเคลื่อนย้ายสัตว์ในครั้งนี้ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯยอมรับว่าไม่ได้ขออนุมัติ หรือขออนุญาตปฏิบัติภารกิจจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งต้องเป็นระดับรองปลัดกระทรวงที่กำกับดูแลสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือจากปลัดกระทรวง  ตามระ เบียบ แต่เป็นการตัดสินใจโดยใช้ดุลพินิจของหัวหน้าศูนย์บินเท่านั้น ทั้งที่เป็นการปฎิบัติภารกิจพิเศษที่มีการกำหนดระเบียบขั้นตอนไว้อย่างชัดเจนแล้ว

การดำเนินการต่อไปในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงซึ่งรับผิดชอบสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะส่งผลการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กับส่วนวินัย  สำนักบริหารกลางของกระทรวง เพื่อไปพิจารณา ว่ามีผู้เกี่ยวข้อง มีความผิดหรือไม่อย่างไร  ขณะเดียวกันก็จะรอผลการสอบสวนจากคณะกรรมการของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่สอบสวนในเรื่องเดียวกันนี้ด้วยและจะส่งผลสรุปรายงานมาภายในเดือนนี้ หากพบมีความผิดก็จะดำเนินการสอบสวนตามระเบียบราชการต่อไป

ขณะเดียวกันในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงฯ กำลังปรับระเบียบการขออนุมัติและการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการปฏิบัติภารกิจปกติและภารกิจพิเศษ ให้ชัดเจนทั้งการขออนุมัติ ขออนุญาต รวมทั้งการลงบันทึกบุคคลที่จะขึ้นไปบนอากาศยาน ซึ่งจะต้องมีเอกสารบัตรประจำตัว รวมทั้งเอกสารสำคัญตามระเบียบการบินสากลอย่างเข้มงวด พร้อมทบทวน ภารกิจการขนย้ายสัตว์ด้วยเฮลิคอปเตอร์ ที่จะต้องมีความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์  ยืนยันยังจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายสัตว์ไปปล่อยในป่าลึกด้วยเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากสัตว์บางชนิดที่มีความดุร้าย อย่างเช่น หมีควาย ก็ต้องนำไปปล่อยในป่าลึกเพื่อไม่ให้ออกมาทำร้ายหรือรบกวนประชาชน รวมถึงสัตว์บางชนิดที่มีความสามารถในจำเส้นทาง ก็ต้องใช้วิธีนี้เพื่อไม่ให้สัตว์กลับมาที่เดิมอีก.-สำนักข่าวไทย  


           

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต