สงขลา 20 เม.ย.- จนท.สงขลาเร่งเก็บหลักฐานตามจับผู้ก่อเหตุหลายจุด 3 อำเภอ คืนที่ผ่านมา ส่วนปาไปป์บอมบ์หน้าโรงพักจะนะพบเบาะแสแล้วจากวงจรปิดเร่งขยายผล รวมถึง จยย. และ 2 ศพผู้ก่อเหตุที่สะบ้าย้อย
พ.ต.อ.สกนธ์ อนนท์รัตน์ ผู้กำกับการ สภ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยถึงเหตุก่อกวนเมื่อคืนที่ผ่านมาหลายพื้นที่ทั้งของอำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อยว่า ผู้ก่อเหตุได้ขว้างระเบิดแบบไปป์บอมบ์เข้ามาบริเวณหน้า สภ.จะนะ ซึ่งไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และการตรวจสอบเบื้องต้นพบความเสียหายเล็กน้อยของป้อมตำรวจทางเข้า สภ.จะนะ โดยผู้ก่อเหตุได้จอดรถจักรยานยนต์ หน้าโรงพัก ห่างจากประตูทางเข้าประมาณ 5 เมตร แล้วขว้างระเบิดไปตกด้านหน้าป้อมที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการ 2 นาย ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้มีอยู่ 2 คน มากับรถจักรยานยนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผล
ด้าน ด.ต.พิชิต เพ็ชรมาก ผู้บังคับหมู่งานป้องกัน สภ.จะนะ อยู่ในเห็นเหตุการณ์และยิงสกัดเหตุ เล่าว่า ขณะเดินออกมาเพื่อเข้าเวรด่านตรวจ พบลูกไฟสีแดงและฝุ่นฟุ้งกระจาย จึงปฏิบัติการตามยุทธวิธียิงสกัดไปและเป็นการแจ้งให้ตำรวจที่อยู่ในโรงพักทราบว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาเพื่อตั้งรับสถานการณ์ จากนั้นจึงมีการจัดชุดไล่ล่าติดตาม ส่วนตนเองรีบเข้าไปดูตำรวจประจำป้อมพบว่าปลอดภัยทั้ง 2 นาย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 จุด สรุปได้ดังนี้ 1. ขว้างระเบิดใส่ป้อมตำรวจ สภ.จะนะ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2. ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ในพื้นที่บ้านนาจวก ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา นางคอรีเย๊าะ ซีตือโม อายุ 28 ปี ชาวบ้านบาดเจ็บ และ 3. อำเภอสะบ้าย้อย ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 2 ราย ขณะกำลังนำระเบิดไปขว้างใส่จุดตรวจอาสารักษาดินแดน หมู่ 5 บ้านไร่ ต.สะบ้าย้อย และจากการตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิตทั้งสองรายเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่มานาน นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุทราบชื่อผู้ครอบครองรถเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตำบลธารคีรี อ.สะบ้าย้อย ซึ่งจะได้เชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมกันนี้ชุดพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทุกจุด
ขณะที่บรรยากาศในพื้นที่ช่วงเช้า (20 เม.ย.) ร้านค้า หน้า สภ.จะนะ ส่วนใหญ่หยุดให้บริการ และเจ้าหน้าที่ได้กั้นบริเวณและปิดการจราจร เพื่อตรวจสอบพื้นที่ และจากการสอบถามเจ้าของร้านขายขนมหวานละแวกดังกล่าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุยังไม่ได้ปิดร้าน และได้เสียงดังมาก จึงวิ่งเข้าร้านหลบภัย ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงปืน และรอจนเหตุการณ์สงบ จึงออกมาดูพร้อมกับรีบปิดร้าน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกหวั่นวิตกไม่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย