ดีเอสไอ 19 เม.ย.-ผู้เสียหายโดนหลอกลงทุนเหมืองแร่ ร้องดีเอสไอ หลังโดนหลอกหลาย 10 ล้านบาท ดีเอสไอพร้อมรับเรื่องตรวจสอบ และให้จัดการกับคดีลักษณะเดียวกัน
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำผู้เสียหายแชร์เหมืองทองเกสูมาโกตา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KKT โดยมูลค่าความเสียหายรวมกันมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ฉ้อโกงประชาชน โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายธนพงษ์ รู้คงประเสริฐ ผู้เสียหายที่สูญเงินลงทุนไปกว่า 6 ล้านบาท กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวจะอ้างว่ามีเหมืองแร่ทองคำในประเทศมาเลเซีย โดยตนเคยได้รับเชิญให้เดินทางไปดูกิจการ เห็นเครื่องจักรและร่วมร่อนทองในประเทศมาเลเซียมาแล้ว ยอมรับว่าไม่มีตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเหมืองทองดังกล่าวเป็นของบริษัทจริงหรือไม่ แต่ส่วนตัวก็มีความเชื่อมั่นในจึงเพิ่มเงินลงทุนและรับซื้อหุ้นจากสมาชิกเก่าๆ จนทำให้มียอดเงินลงทุนสูงกว่า 6 ล้านบาท
ส่วนแผนการลงทุนที่นำมาใช้จูงใจ บริษัทระบุว่าก่อตั้งตั้งมาแต่ปี 2537 ที่ประเทศมาเลเซียและขยายกิจการในประเทศไทยปี2559โดยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในเดือนมี.ค.59 ทุนจดทะเบียน 5ล้าน สัมปทานเหมืองแร่ทองคำ ขายส่งธุรกิจเหล็ก แร่โลหะเหล็ก และนอกกลุ่มเหล็ก มีที่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 45 ม.7 ถ.รามโกมุท ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยต้องการขยายการลงทุนผ่านการขายหุ้น1ล้านหุ้น และจะจ่ายปันผลทุกวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ ลงทุนขั้นต่ำหุ้นละ 280 บาท ปันผลสัปดาห์ละ 20 บาท ครบ 17 สัปดาห์คืนทุน หากลงทุน 100 หุ้น 280,00 บาท ปันผลสัปดาห์ละ 20,000 บาท ครบ 17 สัปดาห์ รับเงิน 880,000 บาท
ในระยะแรกผู้ร่วมลงทุนได้รับเงินปันผลตามกำหนด กระทั่งเดือนพ.ย.59 บริษัทหยุดจ่ายเงินปันผลอ้างว่าจะนำเงินมาคืนในเดือนม.ค.60 และเลื่อนไปเป็นเดือนก.พ.60 แต่สุดท้ายไม่มีการชำระค่าเสียหาย ผู้เสียหายจึงรวมตัวมาร้องทุกข์ให้ดีเอสไอดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่าจะรับเรื่องไปตรวจสอบรายละเอียดในเบื้องต้น ก่อนนำสำนวนส่งมอบต่อให้สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ไปดำเนินการ พร้อมกับให้ดำเนินคดีแชร์ลูกโซ่อื่นๆที่มีลักษณะการกระทำความผิดใกล้เคียงกันต่อไป .-สำนักข่าวไทย