รร.พลาซ่าแอทธินี 19 เม.ย. – คลังเตรียมประสานมหาดไทยหาข้อสรุปปรับเบี้ยยังชีพคนชรา เพื่อเสนอ ครม. ด้าน คปภ.ผนึกภาคเอกชนเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อยผ่านธนาคารรัฐและคลังจังหวัด สำนักงานเขตในกรุงเทพฯ เมื่อสรุปข้อมูลลงทะเบียนชัดเจนแล้วจะนำมาประเมินการจัดสรรสวัสดิการให้กับประชาชน โดยกระทรวงการคลังกำลังประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อปรับระบบเบี้ยยังชีพคนชรา รวมทั้งการทำประกันอุบัติเหตุ 99 บาท เพื่อประเมินภาระงบประมาณกระทบต่อฐานะทางการคลัง หากสรุปชัดเจนทุกด้าน พร้อมเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย ประจำปี 2560 (CEO Insurance Forum 2017) และแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บริบทใหม่กับการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล” โดยย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงยุคเศรษฐกิจดิจิทัลต้องนำระบบไอทีมาปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจหรือที่เรียกกันว่า “InsurTech” เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการทำประกันของสังคมผ่านระบออนไลน์และสังคมผู้สูงอายุ โดยยอมรับว่าธุรกิจประกันเติบโตร้อยละ 12 ต่อปี ขยายตัวสูงกว่าหลายอุตสาหกรรม เมื่อรัฐบาลมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 คาดว่าจะทำให้การเข้าถึงประกันเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันไทยมีประชาชนทำประกันร้อยละ 5.4 ของประชากร
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า การประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัยทั้งภาครัฐและเอกชน เน้นหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายแม่บทด้านการประกันภัยครอบคลุมถึงการป้องกันการฉ้อฉลในธุรกิจประกันภัย เนื่องจากการฉ้อฉลเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ จึงต้องออกกฎหมายรองรับเพื่อความเป็นธรรม ทั้งบริษัทประกัน คนกลาง ประชาชนหรือผู้เอาประกัน เพราะมีทั้งการทุจริตการเคลมประกัน การจ่ายเบี้ย การประเมินความเสียหาย จึงต้องมีบทลงโทษกำหนดให้ชัดเจนและการชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทน โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์และกลไกหรือมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉลประกันภัย
รวมทั้งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำธุรกิจประกันภัย เพื่อสร้างโอกาสและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ การพัฒนามาตรฐานระบบการจัดการสินไหม และการจัดการเรื่องร้องเรียนด้านการประกันภัย รวมทั้งการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านการประกันภัยแก่ประชาชน รวมทั้งยังต้องเดินหน้าให้ข้อมูลประชาชนเข้าถึงระบบประกันมากขึ้นในยุคโลกออนไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและและความเสี่ยงกับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย