นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

เปิดรับการลงทุน

สมาพันธรัฐสวิส 24 ม.ค.-นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ตรงกับเวลาประเทศไทยประมาณ 22.00 น. ของประเทศไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำเสนอวิสัยทัศน์และนโยบายของประเทศไทยต่อผู้บริหารจากภาคเอกชน และร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ในกิจกรรม Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand ในห้วงของการประชุม World Economic Forum ประจำปี ค.ศ. 2025 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้


นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาที่ประชุมสำคัญของโลกที่ดาวอสเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นเสมือนการประชุมสุดยอดของผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดของโลก และการร่วมกิจกรรมในวันนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เน้นย้ำให้ทราบถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่น ที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาค และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาค ประเทศไทย มีโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมระดับโลก และขอยืนยันว่า ในยุคแห่งปัญญาและนวัตกรรมนี้ โลกจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ เพื่อสร้างอนาคตที่เหมาะสมเพื่อทุกคน ซึ่งประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปสู่การใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมจุดแข็งของประเทศไทย 3 ประการ ดังนี้

ประการแรก ในด้านเกษตรกรรมและอาหารประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่มีทรัพยากรการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ครัวโลก” โดยรัฐบาลกำลังเดินหน้าเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ ผ่านการใช้ AI หุ่นยนต์ และการเกษตรแบบแม่นยำ เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ลดของเสีย เพิ่มผลผลิตให้ได้สูงที่สุด และเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรรมไทยจะมีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลยังขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านอาหาร เพื่อช่วยให้ร้านอาหารของไทยได้สร้างสรรค์เมนูที่ไม่เพียงอร่อย แต่ยังมีความยั่งยืนและคำนึงถึงสุขภาพ


ประการที่สอง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของไทยซึ่งเปรียบเสมือน Soft Power ที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและสร้างสีสันให้กับสังคม อาทิการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ของโลกแห่งการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่มั่งคั่งและธรรมชาติที่งดงาม โดยประเทศไทยวางตำแหน่งตัวเองให้เป็น “จุดหมายปลายทางสำหรับการผ่อนคลายความเครียด” ซึ่งทุกคนทั่วโลกสามารถมาท่องเที่ยวเพื่อสร้างความทรงจำและเติมพลังให้ตนเอง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ประเทศไทยยังมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก และมีส่วนสำคัญต่อ GDP และการจ้างงานของประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ประการที่สาม อุตสาหกรรมขั้นสูงที่มีความยั่งยืน โดยประเทศไทยให้ความสำคัญกับวาระโลกสีเขียว ผ่านการส่งเสริมอุตสาหกรรมฐานชีวภาพ ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงการขับเคลื่อนการลงทุนสีเขียวและการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้ พร้อมทั้งลงทุนในอุตสาหกรรมขั้นสูงที่จะกำหนดอนาคตของประเทศไทย เช่น การสร้างระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม และการเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลผ่าน data center รวมถึงยังได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเป็นอย่างน้อย 50% ภายในปี 2040 โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล


โอกาสนี้ นายกัฐมนตรียังกล่าวถึงการส่งเสริมปัจจัย 3 ประการ เพิ่มศักยภาพจุดแข็งของไทยให้ได้สูงสุด ดังนี้

ประการแรก การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่ 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการขยายโครงสร้างพื้นฐานและบริการดิจิทัล พัฒนาฟินเทค และเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขันในระดับโลก รวมทั้งดึงดูดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น บริการคลาวด์ ศูนย์ข้อมูล และเซมิคอนดักเตอร์ 2) พัฒนาประชาชน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ผ่านโครงการเสริมทักษะและยกระดับทักษะ

ประการที่สอง การส่งเสริมการค้าและความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลมุ่งหวังที่จะบรรลุมาตรฐานสากลในหลาย ๆ ด้าน ควบคู่กับการคงไว้ของ “การทูตแบบสยาม” อันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ผ่านการรักษาสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์กับมหาอำนาจ โดยไทยได้สมัครเข้าร่วมองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานด้านต่าง ๆของไทย พร้อมทั้งเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงและเดินหน้าไปสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นในระบบพหุภาคีที่มีพื้นฐานจากกฎเกณฑ์ และการเสริมสร้างสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง ครอบคลุม และคาดการณ์ได้ รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการจูงใจ ปรับปรุงกฎระเบียบ และบรรลุความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศ/ดินแดนต่าง ๆ รวมถึงความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ที่ได้ลงนามไปแล้วเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเป็นฉบับแรกที่ประเทศไทยลงนามกับประเทศในยุโรป และเป็นฉบับแรกที่ครอบคลุมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน ช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม EFTA ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้บริโภค 650 ล้านคนในอาเซียนและ 2.3 พันล้านคนใน RCEP ปีนี้ไทยยังตั้งเป้าที่จะเร่งการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับพันธมิตรอื่น ๆ อีกหลายประเทศ/ดินแดนด้วย รวมทั้งสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีขอให้ร่วมกันส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน รวมถึงมุ่งหวังที่จะเติบโตและเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และไทยจะยังคงเป็นสะพานเชื่อมเพื่อลดความแตกต่างและเพิ่มผลประโยชน์ร่วมกันกับประเทศต่าง ๆ ต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทุกคนที่มาร่วมฟังครั้งนี้จะมีความเข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านคุณค่า จุดแข็ง และวิสัยทัศน์ของไทยที่จะก้าวไปข้างหน้าในฐานะประเทศที่พร้อมจะสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

โอกาสนี้ นายกรัฐมตรียังเน้นย้ำต่อเวทีการหารือครั้งนี้ว่า “ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่น และมีความพร้อมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” และขอให้ทุกคนร่วมกันสร้างโลกแห่งโอกาส สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองสำหรับทุกคน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]

โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ นายกฯ ควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1/2 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว สำหรับโผการปรับ ครม. ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.วัฒนธรรม ซึ่งวันนี้ (30 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรี ยอมรับเองว่าจะนั่งตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม เพราะต้องการผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ส่วน รมว.กลาโหม ยังเว้นว่างไว้ ตามรายงานข่าวแจ้งว่า จะให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทนไปก่อน ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะนั่งควบ รมว.มหาดไทย โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง และ […]