สมุทรสงคราม 17 เม.ย. – ปลัดเกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือประมงภายใต้มาตรการบริหารจัดการกองเรือ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากมาตรการบริหารจัดการกองเรือ ช่วงที่ผ่านมามีชาวประมงเกือบ 2,000 ลำ ร้องเรียนผ่านสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ว่า ขอให้มีการตรวจวัดขนาดเรือประมงใหม่ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมประมง กองทัพเรือ ตรวจวัดเรือประมงใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาการออกไปทำการประมงต้องแจ้งเข้า-ออกที่ศูนย์ PIPO หากขนาดเรือลำจริงไม่ตรงกับทะเบียนเรือจะไม่สามารถออกไปทำการประมงได้ ซึ่งจากการตรวจสอบผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายของทางการไทย พบว่า ยังมีผู้ลักลอบกระทำผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายหลายฉบับที่ปัจจุบันยังอยู่ในกระบวนการแก้ไข อีกทั้งขณะนี้กรมเจ้าท่ามีนโยบายตอกอัตลักษณ์เรือ เพื่อยืนยันความมีอยู่จริงของเรือประมง ดังนั้น ทางรัฐบาลจำเป็นต้องปฏิรูประบบการบริหารจัดการเรือที่ใช้ทำการประมง ขนถ่ายสัตว์น้ำ เก็บรักษาสัตว์น้ำ ตลอดจนเรือที่ใช้ในการสนับสนุนการประมง และเร่งปรับปรุงมาตรการการควบคุมให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรม และเฝ้าระวังไม่ให้เรือดังกล่าวไปทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย สั่งการให้กรมเจ้าท่าซึ่งเป็นหน่วยงานหลักดูแลเรือประมง ร่วมกับกรมประมง และ ศปมผ. สำรวจ ตรวจเรือ และวัดขนาดพร้อมตอกอัตลักษณ์เรือประมงพาณิชย์และเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง เรือบรรทุกน้ำจืด หรือเรือที่ใช้ในการสนับสนุนการประมง ทั้งที่มีและไม่มีทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ หรือใบอนุญาตทำการประมง ที่เข้ามาร้องเรียนผ่านทางสมาคมการประมง และเรือที่สามารถสำรวจเพิ่มให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2560 เพื่อให้ถูกต้องในการบริหารจัดการกองเรือประมงของไทย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเริ่มลงพื้นที่ตรวจสอบจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2560
ทั้งนี้ ปลัด กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า หากผู้ประกอบการเรือประมงและเรือที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรายใดพบว่า รายการในใบทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ หรือใบอนุญาตทำการประมง ไม่ตรงกับสภาพเรือตามความเป็นจริงให้มาร้องขอต่อกรมเจ้าท่า เพื่อทำการตรวจสอบและทำเครื่องหมายที่แสดงอัตลักษณ์เรือ โดยเรือที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไปต้องตรวจสอบภายใน 30 วัน ส่วนเรือที่มีขนาดไม่ถึง 10 ตันกรอส หากผู้ประกอบการลำใดไม่แน่ใจขนาดของเรือสามารถนำเรือมาให้กรมเจ้าท่าตรวจสอบตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนเรือประมงที่มีทะเบียนเรือแต่ไม่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงหรือเรือที่ถูกเพิกถอนทะเบียนแต่มีลำเรืออยู่จริงก็ต้องนำเรือมาให้คณะทำงานตรวจเรือและตอกอัตลักษณ์เรือภายในระยะเวลาและสถานที่ที่กำหนดเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย