ก.เกษตรฯเดินหน้าส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่

กรุงเทพฯ 16 เม.ย.-กระทรวงเกษตรฯ เผยคืบหน้าผลการดำเนินงาน “5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง” เดือน มี.ค.60 ปรับแนวคิด สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมหนุนเกษตรกรจัดทำแผนการผลิตแล้วกว่าร้อยละ 81 จากกลุ่มเป้าหมายแรก 21,000 ราย เดินหน้าแผนเดือน เม.ย.60 ต่อเนื่อง เน้นให้เกษตรกรลงมือทำตามแผนการผลิตในแปลงตนเอง ควบคู่ส่งเสริมจัดทำบัญชีครัวเรือน/บัญชีฟาร์ม ในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน


นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำโครงการ “5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง”เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดทั้งเป็นการเผยแพร่แนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ไปสู่สาธารณชน โดยส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีความสมัครใจจาก 882 อำเภอ รวม 70,000 ราย ได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองอย่างเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ของเกษตรกร โดยมุ่งหวังจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อันเกิดจากการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน โดยการสร้างอาชีพอย่างเหมาะสมกับทรัพยากรและปัจจัยการผลิตที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยได้คัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมเพื่อดำเนินการในปี 2560 จำนวน 70,000 ราย

ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินงานโครงการ “5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง” จะเริ่มต้นจากเกษตรกรกลุ่มแรกที่มีความพร้อมมาก และยังไม่เคยทำเกษตรกรทฤษฎีใหม่มาก่อน 21,000 ราย ในเดือน ก.พ.- เม.ย.60 ส่งเสริมในกลุ่มเกษตรกรที่มีความพร้อมปานกลาง 42,000 ราย ในเดือน พ.ค.- ก.ย. 60 และส่งเสริมในกลุ่มเกษตรกรที่มีความพร้อม 7,000 ราย หรือมากกว่า ในเดือน ต.ค.- ธ.ค.60 โดยแบ่งแผนปฏิบัติงานออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 (ม.ค. – ก.พ.60) โดยกำหนดผู้ร่วมบูรณาการ 5 ประสาน (เกษตรกร ปราชญ์เกษตรกร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา) มาพบปะสร้างการรับรู้แนวทางของโครงการฯ และสร้างกิจกรรมการมีส่วนร่วมระดับประเทศ ระยะที่ 2  (มี.ค.- เม.ย.60) เกษตรกรปรับ/เปลี่ยนพัฒนาตนเอง โดยปราชญ์เกษตรช่วยเพิ่มพูนองค์ความรู้เชิงปฏิบัติการตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ การวิเคราะห์ตนเอง และวางแผนการผลิตตามศักยภาพ ระยะที่ 3 (พ.ค.- ส.ค.60) ขับเคลื่อนการดำเนินงานในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน โดยดำเนินการกิจกรรมตามแผนการผลิต โดยมีภาคเอกชนสนับสนุนการจัดหาปัจจัยการผลิตตามแผนที่เกษตรกรวางไว้ตามความเหมาะสม ส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมการผลิตที่หลากหลายให้เกษตรกรตามศักยภาพฐานะตนเอง รวมทั้งวางแผนการตลาด และ ระยะที่ 4  (ก.ย.- ธ.ค.60) ติดตาม/เยี่ยมเยียน/ประเมินผล โดยเยี่ยมเยียนเกษตรกร อย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน รวมทั้งประเมินความสำเร็จเพื่อปรับแผนปฏิบัติงานให้มีความเหมาะสมสำหรับเกษตรกรแต่ละราย เพื่อให้เกษตรกรสามารถขับเคลื่อนไปด้วยตนเองได้ในระยะยาว     


 สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการฯ ประจำเดือนมีนาคม 2560 ที่ดำเนินการในกลุ่มเป้าหมายแรก21,000 ราย แบ่งเป็น 4 กิจกรรม ดังนี้ (1) การจัดพบปะ 5 ประสานในพื้นที่ โดยพบปะหารือระดับตำบลหรืออำเภอ (เกษตรกร/ปราชญ์เกษตรกร/หน่วยงานภาครัฐ) ดำเนินการแล้ว 52 จังหวัด จากเป้าหมาย 77 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 67.53 ส่วนการพบปะหารือระดับอำเภอหรือจังหวัด (ภาคเอกชน/สถาบันการศึกษา/ภาครัฐ) ดำเนินการแล้ว 49 จังหวัด จากเป้าหมาย 77 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 63.64 (2) การปรับแนวคิด เปลี่ยนวิธีทำ สร้างแรงบันดาลใจแก่เกษตรกร โดยสร้างแรงบันดาลใจในการปรับแนวคิด เปลี่ยนวิธีทำ และสร้างแนวบันดาลใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการมาปรับทำการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ แล้ว 18,413 ราย จากเป้าหมาย 21,113 ราย คิดเป็นร้อยละ 87.21 (3) จัดทำแผนการผลิตและสนับสนุนปัจจัยการผลิต เกษตรกรมีการจัดทำแผนการผลิตแล้ว 17,156 ราย จากเป้าหมาย 21,113 ราย      คิดเป็นร้อยละ 81.26 และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้ดำเนินการรวบรวมความต้องการตามแผนการผลิตของเกษตรกรแต่ละราย เพื่อขอรับการสนับสนุนจากในพื้นที่แล้ว 9,815 ราย จากเป้าหมาย 21,113 ราย    คิดเป็นร้อยละ 46.54 และ (4) เกษตรกรลงมือตามแผนการผลิตในแปลงตนเอง โดยปราชญ์เกษตรกรและหน่วยงานรับผิดชอบดูแลให้คำแนะนำในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งดำเนินการแล้ว 12,960 ราย จากเป้าหมาย 21,113 ราย คิดเป็นร้อยละ 61.38 ปราชญ์เกษตรและหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ติดตามเยี่ยมเยียน เพื่อเป็นที่ปรึกษาในลักษณะเพื่อนเกษตรกร ดำเนินการแล้ว 10,523 ราย จากเป้าหมาย 21,113 ราย คิดเป็นร้อยละ 49.84

 ส่วนแผนปฏิบัติงาน “5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง”ในเดือนเมษายน 2560            จะขับเคลื่อนในเกษตรกรกลุ่มพร้อมมาก 21,000 ราย เหมือนเช่นเดือน มี.ค.60 ให้ต่อเนื่องและครบตามเป้าหมาย แต่ในเดือนนี้จะเน้นให้เกษตรกรได้ลงมือทำตามแผนการผลิตในแปลงของตนเอง ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ดังนี้ (1)เกษตรกรลงมือทำตามแผนการผลิตในแปลงตนเอง (1 – 30 เม.ย.60) โดยเกษตรกรลงมือทำตามแผนการผลิตในแปลงตนเอง หรือเพิ่มกิจกรรมในแปลงให้หลากหลายขึ้น โดยปราชญ์เกษตร และหน่วยงานรับผิดชอบดูแล ให้คำแนะนำในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน (2)การส่งเสริมการจัดทำบัญชีครัวเรือน / บัญชีฟาร์ม (1 – 30 เม.ย.60) หน่วยงานที่รับผิดชอบ ร่วมกับครูบัญชีอาสา ส่งเสริมการบันทึกบัญชีครัวเรือน /บัญชีฟาร์ม ให้มีคุณภาพเพื่อใช้วิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงในระยะต่อไป

 (3) ติดตาม / เยี่ยมเยียนเกษตรกร (1 – 30 เม.ย.60) โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) หน่วยงานที่รับผิดชอบ ปราชญ์เกษตร เอกชน และสถาบันการศึกษา ลงพื้นที่ติดตาม เยี่ยมเยียน ให้คำแนะนำ คำปรึกษา รวมทั้งแก้ไขปัญหาในการดำเนินกิจกรรมในแปลงเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจประสบปัญหาภัยแล้ง (4) สำรวจเพื่อกำหนดเป้าหมายเกษตรกร กลุ่ม Cell แตกตัว (1 – 25 เม.ย.60) โดย Single Command และหน่วยงานที่รับผิดชอบ เริ่มสำรวจหาเกษตรกรกลุ่มพร้อมปานกลาง ซึ่งจะเป็น Cell แตกตัวครั้งที่ 1 จำนวน 42,000 ราย โดยเกษตรกรที่เป็น Cell แตกตัวตามเป้าหมาย อาจอยู่ใกล้เคียงกับเกษตรกรต้นกำเนิดในหมู่บ้านหรืออำเภอเดียวกัน อาจจะเป็นเกษตรกรสมัครใหม่ หรือเป็นเกษตรกรที่คัดเลือกไว้แล้ว และอาจมีการจัดหาปราชญ์เกษตร หรือเกษตรกรต้นแบบ ที่มีจิตอาสามาเป็นตัวช่วยเกษตรกรตามความเหมาะสม โดยเกษตรกรที่เป็น Cell แตกตัว ครั้งที่ 1 จะมาเรียนรู้กับปราชญ์เกษตร หรือเกษตรกรต้นแบบ ร่วมกับเกษตรกร cell ต้นกำเนิด ในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน และ(5) รายงานผล (23 – 30 เม.ย. 60) โดยรายงานผลความก้าวหน้าประจำเดือน เม.ย.60 ภายในวันที่ 28 เม.ย.60-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

ชายแดนช่องจอมลุ้นนำเข้าผัก-ผลไม้ไทยปกติ

สุรินทร์ 17 มิ.ย. – ชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ ขณะนี้แม้จะยังไม่มีสัญญาณจากทางการไทยว่าจะกลับมาเปิดด่านชายแดนตามปกติ แต่บรรดาผู้ค้าตลาดชายแดนยังหวังทั้งสองฝ่ายจะไม่มีมาตการกีดกันการค้าเพิ่ม ซ้ำเติมผลกระทบที่หนักอยู่แล้วในปัจจุบัน ประตูจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกปิดเป็นระยะแบบนี้ตามมาตรการกดดันกัมพูชา ครบ 1 สัปดาห์แล้ว หลังทางการไทยลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่านเหลือเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 7 ชั่วโมง จากเดิมเปิดทุกวัน วันละ 16 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าช่องจอมได้รับผลกระทบอย่างหนัก ล่าสุดต้องลุ้นหนักขึ้นไปอีก หลังวานนี้ (16 มิ.ย.) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ขู่ว่าจะห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้ไทย หากไทยไม่กลับมาเปิดด่านตามปกติ ทำให้ผู้ค้าผัก-ผลไม้ในตลาดชายแดนช่องจอม วิตกอย่างหนัก อย่างแม่ค้าชาวจันทบุรีคนนี้ปักหลักค้าขายผลไม้ที่ช่องจอมมา 12 ปี การลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่าน ยอดขายวันละ 40,000 บาท […]

ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ยังคึกคัก-กัมพูชาเปิดด่านปกติ

สระแก้ว 17 มิ.ย. – ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ยังคึกคัก ฝั่งกัมพูชาเปิดด่านปกติ ขณะที่ไทยเพิ่มความเข้มงวดอย่างยิ่งยวด ใครอยู่ฝั่งปอยเปตให้รีบกลับ ส่วนคนไทยที่จะข้ามไปกัมพูชา หากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ฝั่งไทยได้มาเปิดประตูตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามปกติ ตามมาตรการผ่อนคลายที่ให้นักเรียนสามารถข้ามไปมาได้ จากนั้นเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารและกรมศุลกากร เปิดประตูใหญ่ให้ประชาชนสัญจรทั่วไปได้ตามเวลาที่กองกำลังบูรพากำหนดในขณะนี้คือ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและทางฝั่งไทยจับตาดูฝั่งกัมพูชาว่าในเวลา 09.00 น. จะมีการเปิดด่านหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าฝั่งกัมพูชาอาจมีการปิดด่าน แต่เมื่อถึงเวลา 09.00 น. ปรากฏว่าด่านเปิดตามปกติและภาพที่เห็นขณะนี้คือมีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ข้ามมาฝั่งไทย เพื่อติดต่อค้าขายและทำการค้าตามปกติ อีกส่วนหนึ่งที่มีการจับตาในวันนี้คือ หลังกองกำลังบูรพาออกคำสั่งเมื่อค่ำวานนี้ และมีผลตั้งแต่ 08.00 น. วันนี้ ในการรักษาความปลอดภัยสูงสุดของคนไทย ที่จะข้ามแดนไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา คือเพิ่มความเข้มงวดคนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของบ่อนการพนันกาสิโนและสถานบันเทิงทุกชนิดในปอยเปต ออกนอกราชอาณาจักร ทุกจุดผ่านแดนในจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้ […]

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025

ทำเนียบ 17 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา Miss World 2025″ พร้อมสานต่อโครงการฯ ให้กำลังใจนายกฯ Women to Women ขณะข้าราชการ-สื่อ แห่ถ่ายรูปคึกคัก ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี หรือ โอปอล Miss World 2025 คนที่ 72 หลังคว้ามงกุฎฟ้า มงแรกให้กับประเทศไทย พร้อมด้วยนางจูเลีย มอลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ พร้อมด้วย แม่ปุ้ย นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล โดยมีบรรดารัฐมนตรีร่วมต้อนรับและถ่ายรูปแสดงความยินดีด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีสนับสนุนโครงการ Opal for her […]

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]