คสช.คงมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ยึดรถดื่มแล้วขับ 435 คัน

กรุงเทพฯ 13 เม.ย.-คสช.เข้มงวดดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คงมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ระหว่างวันที่ 12-18 เม.ย. 60 เผยสงกรานต์วันแรก ยึดรถที่ดื่มแล้วขับ 435 คัน พร้อมเน้นตั้งจุดตรวจและบริการประชาชน เตือนประชาชนเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า คสช.ยังคงเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่จะสัญจรไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ซึ่งระหว่างวันที่ 12-18 เมษายนนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว โดยคาดหวังให้สถิติการยึดรถเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สังเกตได้จากหลายภาคส่วนตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนน เพราะสถิติการกระทำผิดในวันที่ 12 เมษายน 2560 ซึ่งเป็นวันแรกตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ดื่มแล้วขับไว้แล้ว 435 คัน โดยรถจักรยานยนต์ มีการกระทำความผิด 32,782 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์และใบขับขี่ไว้ 433 คัน และเตรียมส่งตัวผู้กระทำผิดไปดำเนินคดี 30,071 ราย สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 27,337 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 1,498 คน และยึดรถยนต์ 102 คัน และส่งผู้กระทำความผิดไปดำเนินคดีจำนวน 25,549 ราย

รองโฆษก คสช. กล่าวอีกว่า มาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” จะดำเนินการควบคู่ไปกับการแจ้งเตือนให้ปฏิบัติตามมาตรการลดอุบัติเหตุ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อค และไม่บรรทุกเกิน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการด้วยความละมุนละม่อม ด้วยการแจ้งเตือน และขอความร่วมมือให้ปฎิบัติตาม


รองโฆษก คสช. กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยังให้ความสำคัญกับบริเวณที่ตั้งจุดตรวจ และจุดบริการประชาชน โดยเน้นการตั้งจุดอำนวยความสะดวกในบริเวณที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมถึงพื้นที่ล่อแหลมต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ก่อนถึงสี่แยกหลัก ก่อนถึงทางโค้งอันตราย หรือก่อนขึ้นทางลาดชัน เป็นต้น ดังนั้นจึงขอให้ผู้ใช้เส้นทางปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และหากพบเห็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตามจุดบริการตลอดเส้นทาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม