กรุงเทพฯ12 เม.ย.- ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง คาดค่ำวันนี้ได้ตัวโชกุน ขายทัวร์ญี่ปุ่นก่อนลอยแพประชาชนกว่า 2,000 คน หลังได้เบาะแสกบดานใกล้กรุงเทพฯ ขณะที่ ตม.ระนอง จับเครือญาติได้ 5 คนเตรียมหลบหนีออกทางชายแดน
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว น.ส.พิสิษฐ์ อริญชญ์ลาภิศ หรือโชกุน กรรมการบริหารบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ มาที่กองบังคับการปราบปรามภายในวันนี้ เวลา 18.00 น. หลังเปิดทัวร์หลอกไปญี่ปุ่นมีประชาชนหลงเชื่อกว่า 2,000 คน ก่อนถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์สินของโชกุน มาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายทุกคนให้ได้ เบื้องต้นประเมินความเสียหายไว้ที่ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนแม่ข่ายจะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าถูกหลอกและเป็นผู้เสียหายเช่นกัน
พล.ต.ท.ฐิติราช ระบุอีกว่า ขณะนี้ตำรวจได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการ หรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ขณะนี้ผู้ที่กระทำความผิดและถูกดำเนินคดีขณะนี้ยังมีเพียง 1 คน ส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่นั้นยังไม่มีการยืนยัน เนื่องจากผู้เสียหายไม่เคยพบโชกุน มีเพียงการติดต่อทางไลน์และแม่ข่ายเท่านั้น
และเมื่อคืนนี้หลังเกิดเหตุโชกุนได้ส่งคลิปเสียงผ่านไลน์กลุ่ม โดยไม่ให้ผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจ และอ้างว่าเหตุที่ต้องยกเลิกเที่ยวบิน เกิดจากผู้เสียหาย รวมตัวแจ้งความกับตำรวจ จึงส่งผลกระทบต่อสายการบิน ทำให้สายการบินไม่สามารถส่งเครื่องบินมารับผู้โดยสารได้ และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาอื่นกับโชกุนได้อีกหรือไม่
ด้านตัวแทนผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับโชกุนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากไม่ต้องการให้ไปหลอกลวงประชาชนคนอื่นอีก
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายอยู่นั้น นางรักจิตร์ กิตติคำรณ ผู้อำนวยการกองข่าวสารท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ในคดีดังกล่าวด้วย
ล่าสุด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านระนอง และตำรวจท่องเที่ยวจับกุมกลุ่มเครือญาติโชกุนได้ 5 คน ขณะเตรียมหลบหนีและเตรียมนำตัวเข้ามาสอบสวนที่กองปราบปราม.- สำนักข่าวไทย