กกร.ห่วงเครื่องใช้ไฟฟ้า-อาหารอาจถูกสหรัฐตอบโต้


กรุงเทพฯ10 เม.ย.-กกร.เร่งสรุปรายการสินค้าที่อาจถูกสหรัฐตอบโต้ทางการค้าให้กระทรวงพาณิชย์ทราบ

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กกร. ประจำเดือน เม.ย.60 ว่า ที่ประชุม กกร. มีความเห็นว่า การประกาศคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Executive Orders) เรื่องการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งมีไทยเป็นหนึ่งใน 16 ประเทศที่ถูกระบุว่าเกินดุลกับสหรัฐฯ นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญแม้ไทยจะส่งไปเพียงร้อยละ 10 ของยอดการส่งออกในภาพรวมทั้งหมดก็ตาม เพราะการตอบโต้ของสหรัฐ อาจจะสร้างความไม่แน่นอนต่อทิศทางการค้าและการลงทุนในระยะข้างหน้าได้ แม้ ณ ขณะนี้จะยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนก็ตาม


 โดยจากการประเมินผลกระทบในเบื้องต้นต่อไทยนั้น มีรายการสินค้าส่งออกที่อาจจะเข้าข่ายได้รับผลกระทบทางตรง อาทิ จากประเด็นมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (AD/CVD) รวมทั้งสินค้าส่งออกที่ไทยใช้สิทธิ GSP ของสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะพิจารณาทบทวน ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มอาหาร, เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์, ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ สินค้าส่งออกของไทยในบางหมวดก็ยังอาจจะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตในกรณีที่ประเทศคู่ค้าอย่างญี่ปุ่นและจีนถูกตอบโต้ทางการค้าจากสหรัฐฯ ด้วย

อย่างไรก็ดี ขนาดของผลกระทบคงจะขึ้นอยู่กับระดับของมาตรการที่สหรัฐฯ จะนำออกมาใช้ ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป โดยขณะนี้ ส.อ.ท.หารือกับทีมของนายสมคิดด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมรายการสินค้าที่มีแนวโน้มอาจได้รับผลกระทบเพื่อส่งให้กับกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังเตรียมตัวด้วยการหาตลาดใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย และหากเรื่องใดที่รัฐบาลไทยดำเนินการ เป็นรูปธรรมและมีความพร้อมก็ให้ดำเนินการเชิงรุกโดยเชิญให้ฝ่ายสหรัฐเข้ามาตรวจสอบได้ 

นอกจากประเด็นด้านการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว ยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในยุโรป หลังจากช่วงที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และตลาดเริ่มไม่แน่ใจต่อการผลักดันนโยบายของนายทรัมป์ ทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ ดังกล่าว ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็วในเดือนมีนาคม ซึ่งการออกมาตรการของ ธปท. น่าจะช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทไว้ได้บ้าง แต่อัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีแนวโน้มที่จะผันผวนสูง ทำให้ผู้ประกอบการยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป 


สำหรับค่าเงินบาทแข็งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน แข็งค่าขึ้นร้อยละ 3.7 มากที่สุดในภูมิภาค แข็งค่ารองจากเงินเยนญี่ปุ่นที่แข็งค่าร้อยละ 5.4 ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าร้อยละ 3.4 เงินริงกิต มาเลเซียแข็งค่าร้อยละ 1.2  เงินอินโดนีเซีย แข็งค่าร้อยละ 1.1 และเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นร้อยละ  0.7 อย่างไรก็ตาม เงินบาทเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดไม่ได้เป็นการแทรกแซงจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) 

ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่ซีเรียและสถานการณ์เกาหลีเหนือล่าสุด ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย

ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังมีความไม่แน่นอน แต่ กกร. เห็นว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะยังทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2560 โดยมีการใช้จ่ายของภาครัฐ การขยายตัวของการท่องเที่ยว และการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ดังนั้น กกร. จึงยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ไว้ที่ร้อยละ 3.5 – 4.0 และคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 1.0 – 3.0 ตามเดิม จากการที่กรมศุลกากรได้ตราพระราชบัญญัติศุลกากรขึ้นมาใหม่ หลังจากที่ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ได้บังคับใช้มาเป็นเวลานาน เพื่อให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับการค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีการพัฒนาและขยายตัวมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยร่างพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. …. ได้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ซึ่งกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ประมาณเดือนตุลาคม 2560 โดยร่าง พ.ร.บ.ศุลกากรฉบับใหม่มีสาระสำคัญที่ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ตัวอย่างเช่น การกำหนดความผิดต่างๆ และบทลงโทษสำหรับแต่ละความผิดให้เหมาะสมและทันสมัย ลดอัตราสินบนและเงินรางวัลลงมา และกำหนดสินบนเงินสูงสุดของสินบนและเงินรางวัล กำหนดระยะเวลาตรวจสอบและประเมินอากรย้อนหลังให้ชัดเจน กำหนดเรื่องการถ่ายลำและการผ่านแดนให้ชัดเจนเหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็น Logistic hub ของภูมิภาค

นอกจากนี้ กกร. จะจัดสัมมนาเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจต่อร่าง พ.ร.บ.ศุลกากรฉบับใหม่ ให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ในเดือนพฤษภาคม 2560-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]